อเมริกันไม่ชอบทรัมป์แม้เศรษฐกิจดี
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประสบความสำเร็จในการบริหารประเทศ เนื่องจากทำให้ตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้น แต่แม้ว่าประชาชนชาวอเมริกันจะพอใจกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน แต่ก็ไม่อาจแปรเปลี่ยนเป็นแรงสนับสนุนให้ประธานาธิบดีทรัมป์ได้
ในทวีตเมื่อเช้าวันที่ 11 ม.ค. ทรัมป์เน้นถึงโพลล์ของมหาวิทยาลัย Quinnipiac ที่ชี้ว่า 66% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ตอบแบบสำรวจมองว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ตอนนี้ ‘ยอดเยี่ยม’ หรือ ‘ดี’ ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นจากเดิม 63% ในเดือนธ.ค. และเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่มหาวิทยาลัยเริ่มทำการสำรวจครั้งแรกในปี 2544
อย่างไรก็ตาม ผลโพลล์เดียวกันชี้ให้เห็นว่า การมองเศรษฐกิจในแง่ดีไม่ได้เป็นการสร้างแรงสนับสนุนให้กับทรัมป์ในการปฏิบัติหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำสหรัฐฯ แต่อย่างใด
อ้างอิงจากผลสำรวจ มีเพียงผู้มีสิทธิในการเลือกตั้ง 36% เท่านั้นที่ให้คะแนนว่าทรัมป์สอบผ่านในการทำงาน ขณะที่อีก 59% ไม่ให้เขาผ่าน ในเดือนธ.ค.มีชาวอเมริกันที่มีสิทธิเลือกตั้ง 37% ที่ยอมรับในผลงานของทรัมป์ในการทำงานในฐานะประธานาธิบดี ขณะที่อีก 59% ไม่ยอมรับผลงานของเขา
“จากผลสำรวจชี้ว่า ชาวอเมริกันไม่ได้ชื่นชอบประธานาธิบดีมากขึ้น แม้เศรษฐกิจของประเทศจะดีขึ้นก็ตาม” Tim Molloy ผู้ช่วยผู้อำนวยการในการจัดทำโพลล์ของมหาวิทยาลัย Quinnipiac ระบุ
ขณะที่ตัวเลขของข้อมูลชี้ถึงความเห็นต่อเศรษฐกิจของชาวอเมริกันที่ต่างออกไป คือมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมากถึง 49% ที่คิดว่า ที่เศรษฐกิจดีขึ้น เป็นผลพวงต่อเนื่องมาจากการบริหารประเทศของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามาก่อนหน้านี้และอีก 40% กล่าวว่าทรัมป์ยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมาก
โดยทางทำเนียบขาวไม่ได้ให้ความเห็นกับสื่อในทันทีเมื่อถูกถามถึงเรื่องความเห็นของชาวอเมริกันในโพลล์สำรวจ
ประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งสามารถทำตามสัญญาได้บางส่วนจากการทำให้การจ้างงานของชาวอเมริกันเติบโตขึ้นและทำให้บริษัทอเมริกันย้ายกิจการในต่างประเทศกลับเข้ามาในสหรัฐฯ ได้ย้ำถึงตัวเลขของการจ้างงานประจำเดือน และตลาดหุ้นที่พุ่งทะยานสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเป็นหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่า แนวนโยบายของเขาได้ผล
ทั้งนี้ โพลล์ของมหาวิทยาลัยซึ่งทำการสำรวจชาวอเมริกันที่มีสิทธิในการเลือกตั้งทั้งหมด 1,106 คน ในวันที่ 5 – 9 ม.ค.มีโอกาสที่จะผิดพลาดอยู่ประมาณบวกลบ 3.6%.