ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 20-21 ธ.ค. 2564
เหตุการณ์สภาล่ม เกิดขึ้นบ่อยครั้งจนดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วล่าสุดสภาล่มอีกครั้งในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์สภาล่ม 2 ครั้งติดต่อกันภายในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ และหากนับตั้งแต่สภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบันเข้ามาทำหน้าที่ ก็พบว่าเกิดเหตุการณ์สภาล่มแล้วถึง 12 ครั้งA
เรื่องที่ 624 จำนวน 12 ครั้งนั้นถือว่ามากทีเดียวหากเปรียบเทียบกับสภาผู้แทนราษฎรชุดอื่นๆ โดยเฉพาะถ้ารัฐบาลมีเสถียรภาพมากพอ เหตุการณ์สภาล่มก็จะเกิดขึ้นน้อยมาก การที่สภาล่มเป็นความรับผิดชอบของพรรคร่วมรัฐบาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะหน้าที่ของฝ่ายรัฐบาลคือรักษาเสียงข้างมาก เพื่อให้การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้เดินหน้าต่อไป ถ้าสภาเดินหน้าต่อไม่ได้ก็หมายความว่ารัฐบาลจะทำหน้าที่ไม่ได้ด้วยเช่นกัน และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฝ่ายค้านจะตีรวน หรือไม่แสดงตนเมื่อมีการนับองค์ประชุม เพราะเป้าประสงค์ของฝ่ายค้านนั้นคือ ต้องการให้รัฐสภาเดินหน้าไม่ได้ อันหมายถึงเสถียรภาพของรัฐบาลกำลังไม่แน่นอน ดังนั้น จึงเปล่าประโยชน์ ที่ฝ่ายรัฐบาลจะออกมาโต้ตอบฝ่ายค้านว่าเป็นเหตุให้สภาล่ม เพราะฝ่ายรัฐบาลควรเอาเวลา ไปแก้ไขปรับปรุงไม่ให้เกิดเหตุการณ์สภาล่มซ้ำซากจะดีกว่า
เหตุการณ์สภาล่ม เกิดขึ้นบ่อยครั้งจนดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วล่าสุดสภาล่มอีกครั้งในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์สภาล่ม 2 ครั้งติดต่อกันภายในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ และหากนับตั้งแต่สภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบันเข้ามาทำหน้าที่ ก็พบว่าเกิดเหตุการณ์สภาล่มแล้วถึง 12 ครั้งจำนวน 12 ครั้งนั้นถือว่ามากทีเดียวหากเปรียบเทียบกับสภาผู้แทนราษฎรชุดอื่นๆ โดยเฉพาะถ้ารัฐบาลมีเสถียรภาพมากพอ เหตุการณ์สภาล่มก็จะเกิดขึ้นน้อยมาก การที่สภาล่มเป็นความรับผิดชอบของพรรคร่วมรัฐบาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะหน้าที่ของฝ่ายรัฐบาลคือรักษาเสียงข้างมาก เพื่อให้การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้เดินหน้าต่อไป ถ้าสภาเดินหน้าต่อไม่ได้ก็หมายความว่ารัฐบาลจะทำหน้าที่ไม่ได้ด้วยเช่นกัน และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฝ่ายค้านจะตีรวน หรือไม่แสดงตนเมื่อมีการนับองค์ประชุม เพราะเป้าประสงค์ของฝ่ายค้านนั้นคือ ต้องการให้รัฐสภาเดินหน้าไม่ได้ อันหมายถึงเสถียรภาพของรัฐบาลกำลังไม่แน่นอน ดังนั้น จึงเปล่าประโยชน์ ที่ฝ่ายรัฐบาลจะออกมาโต้ตอบฝ่ายค้านว่าเป็นเหตุให้สภาล่ม เพราะฝ่ายรัฐบาลควรเอาเวลา ไปแก้ไขปรับปรุงไม่ให้เกิดเหตุการณ์สภาล่มซ้ำซากจะดีกว่า
เรื่องที่ 625 มีเรื่องให้ได้ลุ้นกันอีกแล้วสำหรับประชาชนที่เป็นผู้บริโภคแบบเราๆ เพราะ ณ วันสิ้นปีหรือวันที่ 31 ธันวาคม 64 วันส่งท้ายปีเก่าจะเป็นสิ้นสุดมาตรการตรึงราคาขายปลีก LPG ในราคา 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ซึ่งกองทุนพลังงานเชื้อเพลิงต้องนำเงินมาชดเชยอยู่ที่ 13 บาทต่อกิโลกรัม เรื่องนี้ วิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ระบุว่าหากต้องมีการขยับราคาก็ต้องไม่เกินถังละ 363 บาท โอ๊ย…จะขยับขึ้นเท่าไหร่ก็คือรายจ่ายทั้งนั้นแหละจ้า คงได้แต่ภาวนาให้ผู้มีอำนาจทั้งหลายนึกถึงความเดือดร้อนของประขาชนเป็นหลัก
ในเมื่อถึงยุคเปลี่ยนผ่านทางด้านพลังงานไปสู่พลังงานสะอาด ประเทศไทยของเราก็ต้องตามเทรนด์ เห็นได้จากปัจจุบันมีหลายองค์กร หรีอหน่วยงานที่เข้ามาลงทุนตลาดห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจ ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ ก็พร้อมเดินหน้าทุ่มเงินสนับสนุน ล่าสุดบอร์ดบีโอไอไฟเขียวเงินลงทุนกว่า 26,000 ล้านบาท เพื่อสร้างความพร้อมด้านพลังงาน มุ่งยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของไทยสู่ฮับการลงทุนในภูมิภาค ทั้งด้านโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี เรียกว่า “กล้าขอก็กล้าให้” ถ้าตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ
เรื่องที่ 626 เมื่อวันก่อน บก.ชวนคุยเพิ่งจะบอกข่าวดีในข่าวร้ายเรื่องของยารักษาโควิดสายพันธุ์โอมิครอนไปว่า ยาแพกซ์โลวิดของไฟเซอร์สามารถต่อสู้ได้ แต่ดูเหมือนยาที่ว่าจะมาไม่ทันการณ์เสียแล้ว เมื่อสยามเมืองยิ้มของเราดันพบผู้ติดเชื้อเจ้าไวรัสร้ายสายพันธุ์นี้แล้ว 63 ราย ยังไม่รวมรอผลตรวจอีก และที่สำคัญมีผู้ติดเชื้อรายแรกจากในประเทศเรียบร้อย เรียกว่าเล่นเอาเต้นกันทั้งกระทรวงสาธารณสุข เมื่ออนุทิน ชาญวีรกุล เจ้ากระทรวงถึงกับลั่นว่าอาจจะจยกเลิกมาตากร Test & Go หรือแบบไม่ต้องกักตัว กลับมาใช้มาตรการเดิม แล้วกลับใช้วิธีการกักตัวแบบ State Quarantine แทน เศรษฐกิจกำลังคึกคึก ประชาชนเพิ่งได้เดินทางท่องเที่ยว ยังไงก็ขอให้ท่านผู้กำหนดนโยบายช่วยวางมาตรการให้รัดกุมกันหน่อยเน้อ เพราะถ้าเศรษฐกิจต้องหยุดชะงักไปอีก ได้ตายกันเกือบทั้งประเทศแน่คุณขา