ทรัมป์ชี้สหรัฐฯอาจกลับเข้าร่วมข้อตกลงปารีส
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ว่าเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ อาจจะกลับเข้าร่วมในข้อตกลงสภาพอากาศปารีสอีกครั้งในอนาคต แม้เขาจะหยุดเคลื่อนไหวกับทางกลุ่มประเทศสมาชิกไปแล้วก็ตาม
“ พูดตามตรงนะ มันเป็นข้อตกลงที่ผมไม่มีปัญหา แต่ผมมีปัญหากับข้อตกลงที่เซ็นไป เพราะว่า ก็เหมือนเคยแหละพวกเขาตกลงกันในเรื่องแย่ๆ ” ทรัมป์กล่าวในการแถลงข่าว
“ เรามีโอกาสที่จะกลับไปเข้าร่วมได้ ” ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าว เขาแสดงเจตนาที่จะถอนตัวออกจากความตกลงที่ทำไว้เมื่อปี 2558 เพื่อควบคุมการปล่อยมลพิษที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนเมื่อเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว
กระบวนการถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกอย่างเต็มรูปแบบใช้เวลานานและซับซ้อน และความเห็นของทรัมป์ก่อให้เกิดคำถามใหม่ๆ ว่าเขาตั้งใจที่จะถอนตัวจริงๆ หรือต้องการให้เป้าหมายการปล่อยมลพิษของสหรัฐฯ ผ่อนคลายขึ้น
ทั้งนี้ การถอนตัวของสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบกับความพยายามทั่วโลกที่จะจำกัดอุณหภูมิให้ลดต่ำลงเฉลี่ย 2 องศาเท่าระดับก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม
การยืนเคียงข้างนายกรัฐมนตรีเออร์นา โซลเบิร์กของนอร์เวย์ ทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์แสดงตัวเองประหนึ่งว่าเป็นนักสิ่งแวดล้อมระดับแชมป์
“ ผมรู้สึกอย่างแรงกล้าเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เราต้องการที่จะมีน้ำสะอาด อากาศสะอาด แต่เราก็ต้องการทำธุรกิจที่สามารถแข่งขันได้ด้วย ”
“ หนึ่งในสินทรัพย์ที่ยอดเยี่ยมของนอร์เวย์คือสิ่งที่เรียกว่าน้ำ พวกเขามีโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดมหึมา-มหึมาจริงๆ โดยความเป็นจริงแล้ว พลังงานส่วนใหญ่ของคุณและพลังงานไฟฟ้าสร้างจากน้ำ ผมหวังว่าเราจะทำได้อย่างนี้บ้าง ”
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเวลานี้ดูเหมือนจะหมางเมินกับที่ปรึกษาอย่างเช่นอิวานกา บุตรสาวของเขา ซึ่งสนับสนุนนโยบายที่บรรเทาผลกระทบจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และช่วยเหลือคนที่เชื่อว่าข้อตกลงสากลจะช่วยดีงสหรัฐฯ กลับมาได้
ในปี 2560 ตั้งแต่ผู้นำสหรัฐฯ เข้ารับตำแหน่ง ดูเหมือนว่าการบริหารประเทศของประธานาธิบดีทรัมป์เป็นการทำงานเพื่อผ่อนคลายกฎหมายสิ่งแวดล้อม ซึ่งอุตสาหกรรมพิจารณาว่าจะเป็นภาระต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
“ ความตกลงปารีสจะทำให้ความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจของเราลดลง และเราจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น ” ทรัมป์กล่าว.