“ธ.ก.ส.”มอบของขวัญปีใหม่ 2565
ธ.ก.ส. มอบของขวัญปีใหม่ให้กำลังใจลูกค้า จัดมาตรการ “ชำระดีมีคืน-นาทีทองลดดอกเบี้ยสู้โควิด” ถึง 31 มี.ค. 65
ธ.ก.ส. ออกโครงการชำระดีมีคืน โดยคืนดอกเบี้ย ร้อยละ 20 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง วงเงิน 1,200 ล้านบาท และโครงการนาทีทองลดดอกเบี้ยสู้โควิด โดยลดดอกเบี้ยที่ค้างชำระสูงสุด ร้อยละ 50 เพื่อสร้างขวัญกำลังใจและบรรเทาภาระทางการเงิน ช่วยเสริมสภาพคล่องในการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและ COVID-19 พร้อมสนับสนุนสินเชื่อใหม่ ในการฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพเพื่อสร้างรายได้ ตั้งแต่ 15 ธันวาคม 2564 ถึง 31 มีนาคม 2565
นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 เป็นระยะเวลานาน ส่งผลกระทบทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยในภาคการเกษตรได้รับผลกระทบในเรื่องราคาผลผลิตตกต่ำและบางส่วนลูกหลาน ถูกเลิกจ้างงาน ทำให้รายได้ลดลง ซึ่งที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ได้ดำเนินโครงการพักชำระหนี้และปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้กับลูกค้าตามศักยภาพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดความกังวลในด้านภาระหนี้สินไปแล้ว และเพื่อเป็นการเสริมสภาพคล่องในการลงทุนและการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ธ.ก.ส. ได้ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 จำนวน 2 โครงการ ได้แก่
โครงการชำระดีมีคืน ปีบัญชี 2564 สำหรับลูกค้าทั่วไปที่มีหนี้คงเหลือ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2564 ยกเว้นหนี้เงินกู้โครงการที่ได้รับชดเชยดอกเบี้ยตามนโยบายรัฐบาล ที่ชำระหนี้ตามกำหนดเวลา โดยธนาคารจะคืนดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝากลูกค้าโดยตรง ร้อยละ 20 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง ไม่เกินรายละ 1,000 บาท วงเงินงบประมาณ 1,200 ล้านบาท โดยจะมีเกษตรกรลูกค้าได้รับประโยชน์กว่า 4.1 ล้านราย
และโครงการนาทีทองลดดอกเบี้ยสู้โควิด ปีบัญชี 2564 สำหรับลูกค้าที่มีภาระหนี้คงค้าง หรือลูกค้าที่ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2564 โดย ธ.ก.ส. จะลดดอกเบี้ย ดังนี้ 1) กรณีชำระหนี้เสร็จสิ้นเป็นรายสัญญาและ/หรือกรณีเป็นสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยธนาคารจะลดดอกเบี้ยที่ค้างชำระรวมถึงเบี้ยปรับที่มี ไม่เกินร้อยละ 50 ณ วันชำระหนี้ 2) กรณีชำระดอกเบี้ยได้เสร็จสิ้น แต่ไม่สามารถชำระต้นเงินได้ จะลดดอกเบี้ยค้างชำระรวมถึงเบี้ยปรับที่มีร้อยละ 30 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง 3) กรณีชำระดอกเบี้ยได้บางส่วนจะลดดอกเบี้ยค้างชำระรวมถึงเบี้ยปรับที่มีร้อยละ 20 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง 4) กรณีกลุ่มเกษตรกรสหกรณ์ นิติบุคคล และกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ที่ชำระดอกเบี้ยได้เสร็จสิ้นหรือบางส่วน จะลดดอกเบี้ยค้างชำระรวมถึงเบี้ยปรับที่มีร้อยละ 10 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง
ทั้งนี้ เมื่อชำระหนี้แล้ว ลูกค้าสามารถรับการสนับสนุนสินเชื่อใหม่เพื่อนำไปลงทุนในการประกอบอาชีพ รวมถึงการฟื้นฟูอาชีพเพื่อสร้างรายได้ โดยเป็นไปตามเงื่อนไขของ ธ.ก.ส. ซึ่งผู้ที่สนใจ สามารถยื่นความประสงค์ได้ตั้งแต่ 15 ธันวาคม 2564 ถึง 31 มีนาคม 2565 ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02-555-0555