เรือบรรทุกน้ำมันเผาวอดนอกชายฝั่งจีน
สภาพอากาศที่เลวร้ายเป็นอุปสรรคขัดขวางความพยายามที่จะเข้าไปช่วยควบคุมเพลิงและการรั่วไหลของน้ำมันหลังจากเหตุเรือ 2 ลำชนกันเกิดขึ้นนานกว่า 60 ชั่วโมงในทะเลจีนตะวันออก อ้างอิงจากทางการ
โดยจีนแถลงว่า เรือบรรทุกน้ำมันจากอิหร่านยังคงมีเพลิงลุกไหม้อยู่หลังจากเกิดเหตุชนกับเรือบรรทุกสินค้าห่างจากชายฝั่งนครเซียงไฮ้ประมาณ 260 กิโลเมตร
เรือบรรทุกน้ำมัน Sanchi บรรทุกก๊าซธรรมชาติเหลว ( ซึ่งเป็นน้ำมันดิบที่มีความเบาบางที่สุด) ประมาณ 136,000 ตัน
เจ้าหน้าที่กู้ภัยระดมกำลังออกค้นหาลูกเรือที่ยังสูญหายอยู่อีก 31 ราย จนถึงตอนนี้ มีการพบศพลูกเรือชายเพียงหนึ่งราย จากลูกเรือทั้งหมด 30 คนที่เป็นชาวอิหร่านและชาวปากีสถาน 2 คน ขณะที่ชาวจีน 21 คนบนเรือบรรทุกสินค้าได้รับการช่วยเหลือมาได้ครบหมดทุกคน
มีความกลัวและความกังวลเกิดขึ้นตามมาถึงความเสียหายครั้งใหญ่ของสภาพแวดล้อม เนื่องจากน้ำมันยังคงรั่วไหลอย่างต่อเนื่อง
ในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 9 ม.ค.กระทรวงคมนาคมของจีนระบุว่า ลมที่พัดแรง ฝนตกหนัก และคลื่นที่สูงเกือบ 4 เมตรเป็นอุปสรรคกีดขวางการเข้าไปควบคุมเพลิงของเจ้าหน้าที่ โดยกระทรวงชี้แจงว่า ปฎิบัติการออกค้นหาและช่วยชีวิตในตอนนี้ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 900 ตารางไมล์
การสอบสวนอุบัติเหตุอย่างเป็นทางการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับหน่วยงานของภาครัฐหลายแห่ง เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 9 ม.ค.อ้างอิงจากรายงานของทางการ
มีรายงานว่า เรือบรรทุกน้ำมัน Sanchi ซึ่งมีธงชาติของปานามาติดอยู่กำลังลำเลียงก๊าซธรรมชาติเหลวจากอิหร่านไปที่เกาหลีใต้ และเกิดชนกันกับเรือขนส่งสินค้า CF Crystal ซึ่งจดทะเบียนที่ฮ่องกง โดยอุบัติเหตุเกิดขึ้นในทะเลจีนตะวันออก เรือทั้งสองลำปะทะกันในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีในคืนวันที่ 6 ม.ค. และยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของการชนกัน
โดยเรือบรรทุกน้ำมัน ที่ดำเนินการโดยบริษัทขนส่งน้ำมันชั้นนำของอิหร่านบรรทุกก๊าซธรรมชาติเหลว 136,000 ตัน
(ก๊าซธรรมชาติเหลวต่างจากน้ำมันดิบตรงที่มีไฮโดรคาร์บอนชนิดหนัก ซึ่งเป็นส่วนประกอบของน้ำมันเตาปนอยู่เล็กน้อย หรือไม่มีเลย) ซึ่งเท่ากับน้ำมันประมาณ 1 ล้านบาร์เรล และมีราคาประมาณ 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1,944 ล้านบาท นอกจากนี้ เรือ Sanchi ยังบรรทุกเชื้อเพลิงของเรือซึ่งมีปริมาณมากและเป็นพิษอีกด้วย
ตัวก๊าซธรรมชาติเหลวเป็นพิษ มีความหนาแน่นต่ำและทำให้เกิดระเบิดได้มากกว่าน้ำมันดิบทั่วไป สามารถใช้ผลิตเป็นเชื้อเพลิงเครื่องบิน น้ำมันเบนซิน ดีเซล และน้ำมันทำความร้อน
ทั้งนี้ น้ำมัน 1 ล้านบาร์เรลเทียบได้กับ 35 ล้านแกลลอน หากทั้งหมดล้นทะลักออกมาจากเรือ มูลค่าความเสียหายต่อสภาพแวดล้อมจะสูงกว่าเหตุน้ำมันรั่วของ Exxon Valdez ในปี 2532 ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายทางสภาพแวดล้อมที่ร้ายแรงที่สุดของโลกถึง 3 เท่า.