ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 6-7 ธ.ค. 2564
นิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ หลังอยู่มานานร่วม 29 ปี เจ้าตัวเปิดใจกับกลุ่ม ส.ส.ใต้ พรรคประชาธิปัตย์ว่า “ผมมีความอดทนน้อยกว่าทุกท่าน ขอให้ทุกท่านอดทนรักษาพรรคต่อไป วันที่ผมเดินออกจากพรรค ทุกท่านสามารถพูดถึงผมในแง่ใดก็ได้ ผมจะไม่ตอบโต้ เพราะเข้าใจดีว่า ท่านต้องทำเพื่อรักษาพรรค เคยคิดว่าจะออกไปชั่วคราวแล้วจะกลับมาฟื้นฟูพรรค แต่คิดว่าไม่มีประโยชน์ที่จะกลับมาแล้ว คลื่นลูกใหม่จะทับถมจนเรากลายเป็นคลื่นลูกเก่าไปแล้ว กลับมาก็ไม่มีประโยชน์แล้ว การออกไปครั้งนี้จึงเป็นการออกไปทำสงครามครั้งสุดท้ายแล้ว”
เรื่องที่572 นิพิฎฐ์ ยังบอกว่า “ผมอาจพ่ายแพ้และจบชีวิตทางการเมืองตลอดกาล ผมไม่เรียกร้อง เชิญชวนพวกเราให้ออกตามไป เพราะรู้ว่าหนทางข้างหน้ามีอุปสรรคอีกเยอะ” การลาออกของ “นิพิฎฐ์” ครั้งนี้ ทำให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์นั้น เลือดไหลออกไม่หยุด นับตั้งตั้งแต่ที่ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรค เสี่ยต่อ เฉลิมชัย ศรีอ่อน เข้ามาเป็นเลขาธิการพรรค ในปี 2562 แม้ทั้งจุรินทร์และเฉลิมชัย จะผุดแคมเปญ “เลือดใหม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลกลับ” แต่ก็ไม่เป็นผล สิ่งที่ต้องจับตาหลังจากนี้ คือ “นิพิฎฐ์” จะจับมือกับ 4 กุมารของ “อาจารย์สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” หรือไม่ เพราะแว่วๆว่า ได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันมามากพอสมควรแล้ว โดย 4 กุมาร เองก็ต้องการคนสนับสนุน เพื่อเตรียมเปิดตัวในช่วงต้นปี 2565 นี้ แต่การที่ “นิพิฎฐ์” ลาออกในช่วงนี้ ก็เป็นสัญญาณชัดเจนว่า คงได้ร่วมงานกับ 4 กุมารในไม่ช้านี้แน่นอน
เรื่อง573 สัปดาห์นี้ ยังคงต้องจับตาราคาน้ำมันดิบตลาดโลกกันอย่างต่อเนื่อง หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่าน( 29 พ.ย. – 3 ธ.ค. 64)ราคาปรับตัวลดลงมากว่า 10 เหรียญสหรัฐฯ จากความกังวลต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไรวัสโควิด-19 สายพันธุ์กลายพันธุ์โอไมครอนที่แพร่กระจายไปมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ส่งผลให้หลายประเทศมีการใช้มาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศที่เข้มงวดมากขึ้น และกลายเป็นแรงกดดันให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง ซึ่งบทวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ของ บมจ.ไทยออยล์ ได้คาดการณ์ว่า แนวโน้มราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้น่าจะทรงตัว หลังกลุ่มผู้ผลิตคงกำลังการผลิตตามแผน โดยคาดว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 64-69 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 67-72 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล..ซึ่งเราอาจจะได้เห็นราคาน้ำมันในบ้านเราลดลงอีกในสัปดาห์นี้ ก็เป็นได้
เรื่องที่574 รับลูกนายกฯ หลังจาก “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี พร้อมเอ่ยปากให้การสนับสนุน เชื่อมต่อเส้นทางรถไฟและเส้นทางถนนมิตรภาพเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี เพื่อให้การขนส่งสินค้าอุตสาหกรรมจากนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีออกสู่ภายนอก สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม..งานนี้ก็เข้าทางการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ กนอ. พอดิบพอดี
“วีริศ อัมระปาล” ผู้ว่าการ กนอ. บอกว่า เมื่อนายกฯสั่งการมา กนอ.ก็พร้อมรับไปดำเนินการ ซึ่งเป้าหมายเดิมของ นิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ที่ วางแผน ร่วม กับเอกชน ไว้นั้น ก็สอดคล้องกับนโยบายนายกฯ ที่จะให้เป็นจุดกระจายสินค้าที่สำคัญของภาคอีสาน เพื่อดึงดูดอุตสาหกรรมเป้าหมาย ทั้ง อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ,อิเล็กทรอนิกส์,เหล็กขั้นกลางและขั้นปลาย อุตสาหกรรมผลิตวัสดุก่อสร้าง อุตสาหกรรมยางขั้นปลาย และอุตสาหกรรมสนับ สนุนการผลิต..หากเส้นทางกาขนส่งพร้อมทางทางรถ ทางราง การ เป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้า หรือ ฮับโลจิสติกส์ ที่จะเชื่อมไปยังกลุ่มประเทศในCLMV และจีนตอนใต้ ก็ไม่นาจะมีปัญหาแต่อย่างใด..
เรื่องที่ 575 กระแสข่าวโยกย้าย สับเปลี่ยนตำแหน่งภายในกรมศุลกากรช่วงนี้ ยอมรับว่ามาแรงแซงทางโค้งทุกๆ กรณี สอดรับกับสถาน การณ์ของยาเสพติดที่ระบาดอย่างรุนแรงด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะ 2 เดือนก่อนหน้านี้ประเทศออสเตรเลียและล่าสุดประเทศ ไต้หวันออกมาระบุว่า ประ เทศไทยเป็นเส้นทางผ่านของกระ บวนการค้ายาเสพติดโลก สามารถยึดยาเสพติดได้ไม่น้อยกว่า 6,000 ล้านบาท
ไม่เพียงแค่ “หม่อง-พชร อนันตศิลป์” อธิบดีกรมศุลกากร ไม่สบายใจแล้ว เรื่องนี้ ยังร้อนไปถึงนายกรัฐมนตรี สั่งกำชับให้รัฐ มนตรีกระทรวงการคลังที่รับผิดชอบกรมศุลกากร ลงไปดูแลอย่างใกล้ชิด จึงหนี้ไม่พ้น “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง ลงไปควบคุมและสั่งการดูแลเรื่องการส่งออกของสินค้าไทยไปต่างประเทศ ห้ามแอบแฝง หรือซุกซ้อนยาเสพติดเป็นอันขาด
ล่าสุด สายลับแจ้งขบวนการขนยาเสพติดส่งออกยาล็อคใหญ่ เมื่อวันศุกร์ที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ลุยจับกุมได้วันที่ 4 ธ.ค.กลายเป็นประเด็นใหญ่ ลงหน้า 1 นสพ.ทุกฉบับเช้าวันที่ 5 ธ.ค. กรมศุลกากรจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 897 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 538 ล้านบาท งานนี้ ถือว่ากู้หน้ากรมศุลกากรได้สำเร็จ หลังถูกกล่าวหา “ปล่อยให้ยาเสพติดหลุดจากประเทศไทย”
“พงศ์เทพ บัวทรัพย์” ผู้อำนวยการกองสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร ระบุว่า ถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องปรับปรุงงานภายในของกรมศุลกากรใหม่ ให้จับตาหลังจากวันที่ 17 ธ.ค.ไปแล้ว อันดับแรกอธิบดีกรมศุลกากรจะตั้งทีมเฉพาะกิจมาดูแลสินค้าขาออก เพื่อป้อง กันและปราบปรามยาเสพติดโดยตรง โดยทีมเฉพาะกิจนี้ มาจากต่างจังหวัดและจังหวัดชายแดน!!
หลังจากนั้น อันดับต่อไป อธิบดีกรมศุลกากรจะแต่งตั้งรองอธิบดีกรมศุลกากร และตำแหน่ง อื่นๆ ไล่ลงไปตามระบบงาน คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ ส่วนใครจะไปไหน อยู่ในตำแหน่งและด่านอะไร ไม่ได้แจ้งเพื่อทราบ รู้แต่ว่าคนชื่อ “พงศ์เทพ” ขึ้นนั่งรองอธิบดีก่อนเกษียณปีนี้ อย่างแน่นอนครับ
โดย นพวัชร์