กระตุ้นแอปเปิลป้องกันเด็กติดสมาร์ทโฟน
นักลงทุนรายใหญ่เรียกร้องให้แอปเปิลพัฒนาซอฟต์แวร์ที่จำกัดเวลาในการใช้งานสมาร์ทโฟนของเด็กๆ
โดยข้อเรียกร้องนี้มาจากสองกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ที่ถือหุ้นของแอปเปิลรวมกันด้วยมูลค่ามากถึง 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 64,800 ล้านบาท
จดหมายที่เรียกร้องให้มีการป้องกันด้วยระบบแบบดิจิทัล ลงชื่อโดย Jana Partners และ กองทุนเงินบำนาญของครูในแคลิฟอร์เนีย ถูกส่งไปถึงบริษัทผู้ผลิตไอโฟนในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยข้อเรียกร้องให้มีการควบคุมการใช้งานสมาร์ทโฟนให้ดีขึ้นได้รับการขานรับอย่างดีจากสถาบันที่ศึกษาพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีในกลุ่มเด็กๆ
Jana Partners และ California State Teachers’ Retirement System (CalSTRS) เรียกร้องให้แอปเปิลพิจารณาผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเด็กๆ จากการใช้งานสมาร์ทโฟนมากเกินไป โดยในจดหมาย ผู้ถือหุ้นทั้งสองยังชี้ว่า การใช้สมาร์ทโฟนมากเกินไปอาจส่งผลต่อการเรียน ทำลายความสามารถของนักเรียนในการใช้สมาธิเพื่อจดจ่อกับการเรียนและทำให้เวลานอนของพวกเขาลดลง
โดยในจดหมายยังอ้างถึงผลกระทบจากการใช้งานโซเชียลมีเดียมากเกินไปว่าอาจมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตัวเองและอาจเป็นสาเหตุทำให้เด็กเป็นโรคซึมเศร้าได้
ผู้ถือหุ้นทั้งสองรายแสดงความกังวลว่า หากแอปเปิลไม่ใส่ใจกับความกังวลเกี่ยวกับการใช้งานสมาร์ทโฟน มูลค่าหุ้นในตลาดอาจลดลงและชื่อเสียงบริษัทอาจมัวหมองได้ อ้างอิงจากรายงานของรอยเตอร์ ครึ่งหนึ่งของวัยรุ่นในสหรัฐฯเชื่อว่าพวกเขาเสพติดการใช้โทรศัพท์มือถือและรู้สึกว่าจำเป็นต้องตอบข้อความที่ส่งมาโดยทันที
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ถือหุ้นทั้งสองหาโอกาสที่จะเข้าไปพูดคุยหารือในประเด็นนี้กับบอร์ดบริหารของแอปเปิล
Sonia Livingstone ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาสังคมที่ London School of Economics กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่ได้ยินข้อเรียกร้องเช่นนี้จากนักลงทุน โดยเธอเสริมว่า จำเป็นต้องมีเสียงสะท้อนจากผู้ผลิตอุปกรณ์ บริษัทโซเชียลมีเดียและผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตร่วมกันในประเด็นการใช้งานสมาร์ทโฟน
เธอเรียกร้องให้แอปเปิลและผู้ผลิตรายอื่นๆ ควรมีฟีเจอร์การแจ้งเตือน และจำกัดการใช้งานเพื่อให้เด็กๆ หยุดพักหลังจากใช้งานโทรศัพท์มือถือของพวกเขามาเป็นเวลานาน
อย่างไรก็ตาม ศ.Livingstone ซึ่งเป็นเจ้าของบล็อกเกี่ยวกับการดูแลเด็กด้วย ตั้งคำถามถึงการใช้คำว่า ‘เสพติด’ กับกลุ่มเด็กซึ่งใช้งานสมาร์ทโฟนเป็นเวลานาน
“ ทุกคนจะเห็นด้วยว่ามีการใช้งานที่มากเกินไป และแม้แต่เด็กๆที่อาจถูกครอบงำโดยสมาร์ทโฟน แต่ดิฉันไม่เชื่อว่าเป็นการเสพติด ” เธอให้ความเห็น.