ข่าวเด่น ข่าวดัง ประจำวันที่ 25-26 พ.ย. 2564
“ภายหลังภาพพระคลังในพระคลังมหาสมบัติ ปรากฎมีคราบเลือดเปรอะเปื้อน บนใบหน้าพระคลังออกมาทางสื่อโซเชียลมีเดีย คนที่พบเห็นแล้ว รู้สึกหดหู่ยังไงบอกไม่ถูก ต่างก็ด่าว่า คนใจดำทำร้ายพระคลัง แล้วลูกพระคลังอย่างพวกเรา งานนี้ ต้องช่วยกันบรรเลง เพื่อให้เกิดกระแสการเปลี่ยนแปลงภายในกระทรวงการคลัง โดยเฉพาะผู้บริหารระดับสูงของคลัง ควรหันมาดูแลสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพบูชาบ้าง จะมาอ้างเป็นคนรุ่นใหม่ เมินความเชื่อของคนโบราณ หายนะจะตามนะครับ”
เรื่องที่ 529 ภาพพระคลังใบใหม่ ที่โชว์ให้เห็นอยู่แตกต่างจากภาพใบหน้าเก่าอย่างสิ้นเชิง มองเห็นแล้ว อดดีใจไม่ได้ “พระคลังยิ้ม” ให้เห็นใบหน้าที่สดใส หลังปลัดคลัง “พี่ตู่-กฤษฎา จีนะวิจารณะ” สั่งให้เจ้าหน้าที่ไปทำความสะอาด เช็ดถูใหม่เอี่ยมอ่อง มองเห็นรอยถลอกเล็กน้อง ก็เบาใจได้ ใช้เวลาซ่อมไม่นานนัก “พระคลัง ในพระคลังพระมหาสมบัติ” ก็กลับมาสวยงามเหมือนเดิม
ส่วนภาพเก่าคราวที่แล้ว ยิ่งดูก็ยิ่งเศร้าใจ เพราะเหตุการณ์นี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้ก็มีคราบน้ำสนิมเคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้น “สายลับ” รายงานว่า มีคนเคยเอาดินป่าช้ามาวางไว้หน้าพระคลัง พอเจ้าหน้าที่ทราบก็รีบทำความสะอาด แล้วนำดินไปทิ้งเสียให้ไกลๆ งานนี้ จึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ที่แน่ๆ มีคนคิดไม่ดี ไม่งามอย่างแน่นอน
ขณะที่ รมว.คลัง “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” ก็เกิดอาการขวัญผวาด้วยเช่นกัน ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ทั้งหมดขึ้นอยู่กับมุมมอง และอยู่ที่จิตใจของเรา เราทำดีก็มีความมั่นคง ส่วนประเด็นข่าวลือไปถึงเรื่องคลังถังแตกด้วยนั้น ขอยืนยันว่า ฐานะการเงินไม่มีปัญหา ไม่ได้ถังแตกแต่อย่างใด
เรื่องที่ 530 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กะจัดนโยบายหาเสียงแบบเล่นใหญ่ไฟ “กระพริบ” โดยในการประชุม ส.ส.เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมี “บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเป็นประธาน ขณะที่ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ได้ขอให้ ส.ส.นำเสนอนโยบาย รวมถึงแนวทางที่จะทำให้การหาเสียงเลือกตั้งครั้งต่อไปประสบความสำเร็จ ได้คะแนนอย่างเป็นกอบเป็นกำ
โดยในที่ประชุมมีข้อเสนอสุดปังอย่าง “โครงการบัตรเครดิตเกษตรประชารัฐถูกใจ” ให้วงเงิน 50,000 บาทต่อครอบครัว , โครงการประชารัฐ ระดับตำบล ตำบลละ 20 ล้านบาท ฯลฯ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นโครงการชนิดที่เรียกว่าซุปเปอร์ประชานิยม กล่าวคือ ยังไม่มีรัฐบาลใด หรือพรรคการเมืองไหน กล้าแจกเงินเท่านี้มาก่อน
เมื่อนักข่าวถาม พล.อ.ประวิตรว่า พรรค พปชร. จะมีนโยบายเช่นนั้น จริงหรือ บิ๊กป้อม ตอบเพียงว่าให้ไปถามกระทรวงการคลัง ขณะที่ น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงว่า นโยบายดังกล่าว เป็นเพียงข้อเสนอ ในการหารือ ยังไม่ใช่การตกผลึกเป็นนโยบายของพรรค
ย้อนไปในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา สำหรับพรรคพลังประชารัฐ ได้คะแนนความนิยมจากนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งชาติ ซึ่งเป็นการแจกเงินรายเดือนให้ผู้มีรายได้น้อย หัวละ 200 บาท และ 300 บาท บางมีเดือนมีเงินเพิ่มเติม แบบกรณีพิเศษ หรือ Extra มอบให้ฟรี 1 พันบาทก็หลายครั้งทั้งค่าเช่าบ้าน ค่ารถไปโรงพยาบาลก็มี
จึงไม่ต้องแปลกใจที่พรรคประชารัฐ จะต้องคิดแนวทางใหม่ เพื่อจูงใจประชาชนในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะโครงการบัตรสวัสดิการฯ กลายเป็นเรื่องเก่า ไม่ใช่ของใหม่ในการหาเสียงอีกต่อไปแล้ว
เรื่องที่ 531 ยกเครื่องใหม่ สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย หรือ สอน. เตรียม เดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มตลาดกลางเครื่องจักรที่ใช้ในไร่อ้อย บนเว็บไซต์ www.Raiaoi.com เพื่อเป็นตลาดกลางเชื่อมโยงชาวไร่อ้อยกับผู้ประ กอบการเครื่องจักรกลทั้งที่ขายและให้เช่าได้เข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์มเดียวกัน…
แพลตฟอร์มนี้ “เอกภัทร วังสุวรรณ” เลขาฯ สอน. แจ้งว่าจะเริ่มใช้ปี 65 สามารถช่วยให้ชาวไร่อ้อยเข้าถึงข้อมูลและเครื่อง จักรที่ต้องการได้สะดวกรวดเร็วขึ้น ทั้ง รถแทรกเตอร์ รถตัดอ้อย รถไถ รถสาง รถพรวนดิน แล็บเตอร์ มีทั้งหมด ทั้งยังอยู่ภายใต้งบประมาณสนับสนุนจากกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายอีกด้วย ผู้ประกอบการเครื่องจักรกลทางการเกษตรทั้งรายเล็กรายใหญ่ ทั้งขายและให้เช่า ท่านใดสนใจเข้าร่วมเรียนเชิญได้ครับ…
เรื่องที่ 532 เซ็นสัญญาร่วมทุนอย่างเป็นทางการแล้ว โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ระหว่างการท่าเรือแห่งประเทศไทย กับกลุ่มร่วมค้า GPC ที่มีขาใหญ่ร่วมถือหุ้นประกอบด้วย บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (GULF) ,บริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด (PTT TANK) และ บริษัท เชค โอเวอร์ซี อินฟราสตรัคเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ได้ฤกษ์ดีวันพฤหัสบดีที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมี รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข “อนุทิน ชาญวีรกูล” ประธานในพิธีลงนามสัญญาร่วมทุนฯ มูลค่าการลงทุน ไม่ใช่น้อย ทะลุ 30,000 ล้านบาท ไปเล็กน้อย เห็นสีหน้าแฮปปี้กันทุกฝ่าย ก็พลอยชื่นใจไปด้วย เพราะกว่าจะลงตัวทำปวดหัวกันข้ามปี
เรื่องที่ 533 วันศุกร์ 26 พ.ย.วันสุดท้ายแล้วนะ “แพตริเซีย มงคลวนิช” ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ประกาศว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา ถือเป็นวันแรกที่เปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นออมไปด้วยกัน สำหรับนิติบุค คลไม่แสวงหากำไร แต่ยังจำหน่ายไม่หมด จึงเปิดขายต่อเนื่อง เป็นวันที่ 2 ก็ยังไม่หมดอีก (25 พ.ย.) ร้องขอ รมว.คลัง เปิดขายอีกวัน วันที่ 26 พ.ย.นี้ เป็นวันสุดท้ายแล้ว ถ้ายังไม่หมดอีก อ่านแล้วก็พากันเศร้าใจเพราะนิติบุคคลรายใหญ่ทั้งวัดและมูลนิธิยังไม่กล้าซื้อ รอบหน้าถึงมือพวกเรา คนมีกะตังจะซื้อหรือไม่ ต้องวัดใจอีกครั้ง.
โดย นพวัชร์