สรุปข่าวประจำ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564
หุ้น ตปท.-ไทย : ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาด (15 พ.ย.)ลดลง 12.86จุด (0.036%) ปิดที่ 36,087.45 จุด แนสแดค ลดลง 10.77 จุด (0.07%) ปิดที่ 16,192.12 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.04 จุด (0.00%) ปิดที่ 4,682.81 จุด ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดตลาด(15 พ.ย.) ที่ระดับ 1,638.73 จุด เพิ่มขึ้น 4.79 จุด (0.29%) มูลค่าการซื้อขาย 69,469.56 ล้านบาท
น้ำมันโลก-ไทย : สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ปรับตัวขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ราคา 80.88 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 12 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 82.05 ดอลลาร์/บาร์เรล ปตท.-บางจาก ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดลง 0.20 บาทต่อลิตร เว้น E85 คงเดิม มีผล 16 พ.ย.64 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็นดังนี้ ULG = 39.76, GSH95 = 32.35, E20 = 30.84, GSH91 = 32.08, E85 = 24.44, HSD- B7= 29.74, HSD-B10 = 29.59, HSD-B20=29.49,ดีเซลพรีเมี่ยม B7 = 34.96 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร
ทองคำลง 50 บาท : ราคาทองคำเมื่อวันที่ 15 พ.ย. ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 28,750 ขายออกบาทละ 28,850 ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 27,227.92 ขายออกบาทละ 29,350 บาท ราคาทองคำปรับลง 50 บาท เมื่อเทียบกับวันที่ 13 พ.ย.
เงินบาทแข็งขึ้น : สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก วานนี้ (15 พ.ย.) แข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับวันที่ 12 พ.ย.โดยธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 32.707 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แบงก์พาณิชย์ กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยที่ใช้ซื้อขายกับลูกค้า โดยกำหนดค่าเงินบาทไว้ที่ 32.8847 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ, 44.3726 บาทต่อ 1 ปอนด์, 37.8416 บาทต่อ 1 ยูโร, 29.1052 บาท ต่อ 100 เยน, 4.2413 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาทที่ 24.5017 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 7.9703 บาท ต่อ 1 ริงกิตมาเลเซีย
“พปชร.” ลั่นพร้อม “เลือกตั้ง” : นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า พรรคพปชร. มีความพร้อมในการเดินหน้าเพื่อเตรียมการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นในอนาคต หากการเลือกตั้งครั้งหน้าได้เป็นแกนนำรัฐบาล สิ่งแรกที่จะทำคือการเปลี่ยนและรื้อระบบใหม่ โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณที่กระจัดกระจายไปอยู่แต่ละกระทรวงที่ส่งผลให้การเข้าช่วยเหลือเป็นไปอย่างล่าช้าเพราะมีขั้นตอนหลายอย่าง
GDP ไตรมาส 3 ติดลบ 0.3% : สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 หดตัว 0.3 % (YoY) จากการขยายตัว 7.6 % (YoY) ในไตรมาสที่ 2/2564 ทั้งนี้ เป็นผลจากการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง และกระจายเป็นวงกว้างของโรค COVID-19 ซึ่งกระทบต่อทั้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการดำเนินชีวิตของประชาชน
ห้ามเปลี่ยน-ยกเลิกประกัน ‘เจอ จ่าย จบ’ : มติ คปภ.ห้ามเปลี่ยน-ยกเลิกประกันโควิด แบบ ‘เจอ จ่าย จบ’ การปรับเปลี่ยนไปให้ความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยประเภทอื่นที่อาจเป็นประโยชน์แก่ผู้เอาประกันภัยมากขึ้น สามารถกระทำได้เฉพาะกรณีที่เป็นเรื่อง ความสมัครใจของผู้เอาประกันภัยเท่านั้น ไม่สามารถไปบังคับผู้เอาประกันภัยให้ยอมรับการบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย หรือยอมรับเงื่อนไขความคุ้มครองใหม่ของบริษัท ดังนั้น การเปลี่ยนสิทธิหน้าที่หรือความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัยจะสามารถกระทำได้เฉพาะในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยได้มีการแสดงเจตนา หรือให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งในการตอบรับข้อเสนอของบริษัทเท่านั้น
ขายพันธบัตร “ออมไปด้วยกัน” 12 นาทีหมด : ธนาคารกรุงไทย เปิดขายพันธบัตรออมทรัพย์ วอลเล็ต สบม. รุ่น “ออมไปด้วยกัน” ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ประชาชนและนักลงทุนให้การตอบรับเข้าลงทุนอย่างท่วมท้น สามารถขายหมดเต็มวงเงิน 10,000 ล้านบาท ตั้งแต่วันแรกที่เปิดขาย ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 พร้อมสร้างสถิติใหม่ของการขายพันธบัตรออมทรัพย์ หมดภายในเวลา 12 นาที โดยเปิดขาย 2 รุ่น คือ รุ่นอายุ 5 ปี และ 10 ปี เริ่มเปิดขายตั้งแต่ 08.30 น. สิ้นสุดการขายในเวลา 08.42 น. โดยมีผู้ลงทุนตั้งอายุ 15-90ปี ทุกจังหวัดทั่วประเทศแบ่งเป็นกรุงเทพฯ 33.5% และต่างจังหวัด 66.5%