“บิ๊กตู่” ถก “จาซินดา อาร์เดิร์น” เตรียมรับมอบ เป็นเจ้าภาพเอเปค 65
“บิ๊กตู่” หารือกับ “จาซินดา อาร์เดิร์น” นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เตรียมรับมอบ เป็นเจ้าภาพเอเปค 65
เวลา 11.45 น. วันที่ 5 พ.ย. ณ ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้หารือกับนางสาวจาซินดา อาร์เดิร์น (The Right Honourable Jacinda Ardern) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ผ่านระบบ Video conference ซึ่งฝ่ายนิวซีแลนด์เป็นฝ่ายทาบทามการหารือ เพื่อเป็นโอกาสในการหารือเรื่องการส่งมอบการเป็นเจ้าภาพเอเปคให้กับไทย และประเด็นสำคัญที่ไทยประสงค์ผลักดัน(Priorities) ในการประชุมเอเปคในช่วงที่ไทยเป็นเจ้าภาพ
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรียินดีที่ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์อีกครั้ง หลังจากที่ได้พบกันครั้งล่าสุดในการเดินทางเยือนไทยของนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 14 ที่กรุงเทพ นายกรัฐมนตรีชื่นชมความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับนิวซีแลนด์ที่ดำเนินมาอย่างใกล้ชิดแม้ในห้วงการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ไทยกับนิวซีแลนด์ยังคงรักษาพลวัตของความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันทั้งในระดับทวิภาคี อนุภูมิภาค และภูมิภาค ทั้งนี้ ไทยชื่นชมความสำเร็จของนิวซีแลนด์ในการเป็นเจ้าภาพเอเปคปีนี้ ไทยพร้อมที่จะรับมอบการเป็นเจ้าภาพเอเปค และนายกรัฐมนตรีหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้มีโอกาสต้อนรับนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ในเดือนพฤศจิกายน 2565
นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสหารือกับนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ชื่นชมบทบาทของนายกรัฐมนตรีมาโดยตลอด ชื่นชมความก้าวหน้าในการจัดการประชุมเอเปคของไทย และเฝ้ารอที่จะมีส่วนร่วมประชุมเอเปคที่ไทยเป็นเจ้าภาพ และประทับใจประเด็นที่ไทยผลักดันในการประชุม และเฝ้ารอที่จะร่วมพิธีส่งมอบการเป็นเจ้าภาพเอเปคให้ไทยในสัปดาห์หน้า ตลอดจน ยินดีกับความสัมพันธ์ไทย-นิวซีแลนด์ซึ่งไทยถือเป็นมิตรประเทศที่สำคัญหวังจะมีความร่วมมือมากขึ้น โดยไทยและนิวซีแลนด์ได้ครบรอบ 65 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในปีนี้
ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกัน
– ด้านการค้าการลงทุน นิวซีแลนด์ประสงค์จะกระชับความร่วมมือด้านนี้มากขึ้น ด้วยความสัมพันธ์ที่ยาวนานระหว่างกัน ทำให้มีความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนระหว่างกันมากขึ้นจึงประสงค์จะใช้กลไกเหล่านั้นเพิ่มความสัมพันธ์ ซึ่งนายกรัฐมนตรียินดีที่จะผลักดันความร่วมมือดังกล่าวเพื่อประโยชน์ร่วมกัน
– การท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ประสงค์ที่จะผลักส่งเสริความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน นายกรัฐมนตรีจึงได้กล่าวถึงการเปิดประเทศที่ชาวนิวซีแลนด์สามารถเดินทางมาไทยผ่านการเปิดประเทศของไทยแล้ว ทั้งสองฝ่ายจึงประสงค์สนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างกันต่อไป
– ด้านสาธารณสุข ไทยประสงค์จะเรียนรู้ศาสตร์ด้าน TravelMedicine จากนิวซีแลนด์ และแสวงหาความร่วมมือด้านการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมแพทย์ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ของไทย
– ด้านการศึกษา นายกรัฐมนตรีชื่นชมระบบการศึกษาของนิวซีแลนด์จึงทำให้มีนักเรียนไทยเดินทางศึกษาที่นิวซีแลนด์กว่า 3 พันคน ต่อปี และขอให้นิวซีแลนด์ผ่อนปรนให้นักศึกษาไทยกลับไปศึกษาต่อไป
ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อสถานการณ์ที่เป็นประเด็นระหว่างประเทศ
– โควิด-19และการจัดหาวัคซีน นายกรัฐมนตรี ชื่มชมความสำเร็จของนิวซีแลนด์ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามนโยบาย “Go Hard, Go Early” และการบริจาควัคซีนโควิด-19 ของนิวซีแลนด์ให้กับ COVAX Facility และหมู่เกาะแปซิฟิก ซึ่งไทยก็ได้ร่วมบริจาคเงินสนับสนุนเงินและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเช่นกัน
– สิ่งแวดล้อม นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ชื่นชมวิสัยทัศน์นายกรัฐมนตรีไทยที่ให้ความสำคัญกับประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมทั้งในการกำหนดนโยบายและในกรอบการประชุมเอเปคเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีหวังที่จะผลักดันนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG ของไทย ร่วมมือกับ แผนเศรษฐกิจ 30 ปี ของนิวซีแลนด์
– สถานการณ์เมียนมา ทั้งสองฝ่ายหวังที่จะให้เกิดความสงบ สถานการณ์คลี่คลาย และกลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณนิวซีแลนด์ที่ได้ให้การสนับสนุนบทบาทของอาเซียนในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ในเมียนมา และหวังว่านิวซีแลนด์จะยังคงสนับสนุนอาเซียนต่อไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ชื่นชมบทบาทที่เข้มแข็งของไทยในภูมิภาค