สีชี้จีนไม่ปิดประตูอินเทอร์เน็ต
ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนแถลงเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ว่า จีนจะไม่ปิดประตูให้กับอินเทอร์เน็ตทั่วโลก แต่อธิปไตยไซเบอร์เป็นสิ่งสำคัญของวิสัยทัศน์ในการพัฒนาอินเทอร์เน็ตของจีน
มีการอ่านความเห็นของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงโดยนายหวงคุนหมิง หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ของพรรคคอมมิวนิสต์ จีนในการประชุมนโยบายไซเบอร์สาธารณะซึ่งจัดขึ้นที่เมืองอู่เจิ้น ทางตะวันออกของจีน
“ การพัฒนาไซเบอร์สเปซของจีนกำลังมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วเหมือนอยู่ในเลนด่วน ประตูของจีนจะไม่เพียงเปิดกว้างมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ” ประธานาธิบดีสีระบุในแถลงการณ์
อธิปไตยไซเบอร์เป็นหลักการสำคัญที่ประเทศควรได้รับอนุญาตให้จัดการและคงการพัฒนาอินเทอร์เน็ตของประเทศตัวเองได้ โดยไม่มีการแทกแซงจากภายนอกประเทศ
พรรคคอมมิวนิสต์ของจีนกระชับกฎระเบียบไซเบอร์อย่างเคร่งครัดเข้มงวดในปีที่ผ่านมา โดยกฎข้อบังคับใหม่ที่เป็นทางการกำหนดให้บริษัทต้องเก็บข้อมูลในประเทศและเซ็นเซอร์เครื่องมือที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานล้มล้างระบบ Graeat Firewall ( ระบบการตรวจพิจารณาอินเทอร์เน็ตของจีน)
ในเดือนมิ.ย. จีนได้แนะนำกฎหมายความปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติใหม่ที่กำหนดให้บริษัทต่างประเทศต้องเก็บข้อมูลในประเทศและยินยอมให้มีมาตรการตรวจสอบข้อมูล
เจ้าหน้าที่ผู้กำกับดูแลไซเบอร์ระบุว่า กฎหมายใหม่ของจีนเป็นไปในแนวทางเดียวกับกฎหมายนานาชาติ และถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของแต่ละบุคคลและการโต้กลับบนโครงสร้างพื้นฐานหลัก แต่กลุ่มธุรกิจชี้ว่า กฎหมายใหม่ที่ไม่ยุติธรรมนี้ตั้งเป้ารับมือกับบริษัทต่างประเทศ
จีนสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งสำหรับบทบาทที่ใหญ่ขึ้นในการบริหารอินเทอร์เน็ตทั่วโลกภายใต้การปกครองของประธานาธิบดีสี
“ จีนพร้อมที่จะพัฒนากฎและระบบใหม่ในการจัดการอินเทอร์เน็ตเพื่อให้บริการทุกภาคส่วน และลดผลกระทบจากความไม่สมดุลในปัจจุบัน ” หวังหูหนิง สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ที่เป็นคณะกรรมการของการประชุมเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.กล่าว
โดยการประชุม มีผู้สังเกตการณ์เป็นแขกต่างประเทศที่ได้รับเชิญจากคณะผู้บริหารไซเบอร์สเปซของจีน ( CAC) คือ ทิม คุก ซีอีโอของบริษัทแอปเปิล และนายสุนทร พิชัย ซีอีโอของกูเกิล รวมถึงผู้บริหารของเฟซบุ๊ก
ทั้งนี้ กูเกิลและเฟซบุ๊กถูกแบนในจีน รวมทั้งทวิตเตอร์และบรรดาเว็บไซต์ข่าวส่วนใหญ่ของประเทศตะวันตก
นอกจากนี้ ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนอย่างอาลีบาบา เทนเซนต์ และไบ่ตู้ ก็ได้เข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้ด้วยเช่นกัน.