แนะรัฐ ทบทวนนโยบาย ขายอสังหาฯ ให้ต่างชาติ
เกียรติ ปชป. แนะรัฐบาลทบทวนนโยบายเปิดทางต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยให้รอบคอบ หวั่นกระทบความสามารถในการครอบครองที่อยู่อาศัยของคนไทย
เมื่อวันที่ 7 ต.ค.นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เปิดให้ต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่า หลักการสำคัญของนโยบายให้ต่างชาติซื้อและครอบครองบ้านและคอนโดในไทย คือ 1. ต่างชาติสามารถซื้อบ้านเดี่ยวในไทยได้ หากมีการลงทุนที่ 10-15 ล้านบาท ซึ่งปรับลดจากเดิมที่ 40 ล้านบาท 2. การขยายเพดานให้ต่างชาติซื้อห้องชุดได้ถึงร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ขายในโครงการ จากเดิมไม่เกินร้อยละ 49 3. การขยายระยะเวลาเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์และอุตสาหกรรม จากเดิมเช่าได้สูงสุด 30 ปี ขยายเพิ่มเป็น 50 ปี และต่อได้อีก 40 ปี
นายเกียรติ กล่าวว่า ขอเสนอให้รัฐบาลทบทวนนโยบายดังกล่าวอีกครั้งให้รอบคอบ เพราะถ้านโยบายในเรื่องนี้ผิดพลาด จะกระทบคนไทยและความสามารถในการครอบครองที่อยู่อาศัยของคนไทย ซึ่งตัวอย่างจากทั่วโลกมีอยู่มาก โดยเฉพาะในเมืองหลวงบางประเทศ เช่น กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นเองได้ยอมรับว่ากำลังเผชิญกับ “Housing crisis” หรือ “วิกฤตที่อยู่อาศัย” อยู่ในขณะนี้ ซึ่งหมายความว่า แม้แต่ค่าเช่าบ้านก็สูงเกินกำลังการจ่ายของชาวลอนดอน
ทั้งนี้ ตนได้เคยศึกษารายละเอียดในประเด็นนี้กับหอการค้าต่างประเทศในไทย และได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่า กฎหมายในปัจจุบัน อนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถเช่าที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ระยะยาวได้ถึง 30 ปี และต่ออายุได้อีก 30 ปี รวมถึงสามารถเปลี่ยนมือผู้เช่าได้ ดังนั้น กฎหมายที่มีอยู่จึงไม่เป็นอุปสรรคใดๆ กับชาวต่างชาติที่สนใจจะถือครองที่ดินและทรัพย์สินโดยการเช่าระยะยาวในประเทศไทย นอกจากนี้ สัญญาเช่าระยะยาวที่มีการตีตราประทับที่โฉนดที่ดินอย่างชัดเจน ก็สามารถนำไปใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันกับสถาบันการเงินได้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องการอนุญาตให้ถือครองห้องชุด คอนโดมิเนียม ที่พยายามจะขยับเพดานชาวต่างชาติจากร้อยละ 49 เป็นร้อยละ 70 – 80 นั้น ต้องสำรวจว่าในปัจจุบันแต่ละโครงการที่ชาวต่างชาติถือครองอยู่มีสัดส่วนเท่าใด เพราะถ้าข้อมูลมีไม่ชัดเจน นโยบายไม่ถูกต้อง ก็อาจทำให้ทำเลหลัก (Prime area) ราคาขยับสูงขึ้น ทำให้คนไทยเข้าถึงได้น้อยลงไปอีก
นายเกียรติ กล่าวอีกว่า มาตรการเปิดทางให้ต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่มีเป้าหมายที่จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจนั้น แต่ละมาตรการจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้แก่ประชาชนได้อย่างไร เพราะปัญหาขณะนี้ คือผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลทำให้คนตกงาน รายได้ลดลง และธุรกิจ SMEs มีรายได้ไม่เพียงพอ จึงไม่สามารถกู้เงินเพิ่มได้