ยูเอ็นเผยทหารเมียนมาข่มขืนชาวโรฮีนจา
ทหารเมียนมาตั้งเป้าหมายที่จะข่มขืนและรุมโทรมหญิงชาวโรฮีนจาในระหว่างการปราบปรามกลุ่มติดอาวุธอย่างรุนแรง จนทำให้เกิดการอพยพลี้ภัยครั้งใหญ่ของชาวโรฮีนจาไปบังคลาเทศ อ้างอิงจากความเห็นของทูตพิเศษองค์การสหประชาชาติเมื่อวันที่ 12 พ.ย.
Pramila Patten ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการยูเอ็นเกี่ยวกับความรุนแรงทางเพศในความขัดแย้งแสดงความเห็นหลังการเยือนเขต Cox’s Bazar ทางตะวันออกเฉียงใต้ของบังคลาเทศ ที่ซึ่งมีชาวโรฮีนจาลี้ภัยมากถึง 610,000 คนในช่วง 10 สัปดาห์ล่าสุด
โดยเธอกล่าวว่า การกระทำที่โหดร้ายป่าเถื่อนเหล่านี้อาจเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
“ ดิฉันได้ฟังเรื่องราวที่น่าสะเทือนใจของการถูกข่มขืนและการถูกรุมโทรม โดยผู้หญิงและเด็กหญิงจำนวนมากต้องเสียชีวิตจากการถูกข่มขืน ” เธอกล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงธากา
“ ประเด็นของการสังเกตการณ์ของดิฉันคือรูปแบบการกระทำที่โหดร้าย ทั้งความรุนแรงทางเพศที่มีต่อผู้หญิงและเด็กหญิงชาวโรฮีนจาซึ่งถูกกระทำอย่างมีเป้าหมายจากความแตกต่างทางเผ่าพันธุ์และศาสนา ความรุนแรงทางเพศในรัฐยะไข่ของเมียนมาเป็นการสั่งการ การจัดการ และลงมือกระทำอย่างผิดกฎหมายโดยกองทัพของเมียนมา ” เธอกล่าว
“ รูปแบบของความรุนแรงทางเพศที่เราได้รับฟังมาจากเหยื่อผู้รอดชีวิตคือ การถูกรุมโทรมโดยทหารเมียนมาหลายคน บังคับให้พวกเธอเปลือยกายในที่สาธารณะ ถูกทำให้อับอาย และกลายเป็นทาสกามในกองทัพ ”
“ ผู้รอดชีวิตรายหนึ่งของเราเล่าให้ฟังว่า เธอถูกจับไปกักขังในกองทัพนานถึง 45 วัน ในช่วงเวลานั้น เธอถูกข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขณะที่คนอื่นๆ ก็ยังถูกทุบตีทำร้ายและถูกกัด ในระหว่างที่ถูกกักขังเป็นทาสกามเช่นกัน ”
ข่าวของกลุ่มติดอาวุธชาวโรฮีนจาที่บุกโจมตีตำรวจเมียนมาจนมีผู้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ก่อให้เกิดวิกฤตความรุนแรงจากทางกองทัพเมียนมาที่เข้าปราบปรามชาวโรฮีนจาครั้งล่าสุด
ผู้แทนพิเศษกล่าวว่า ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความรุนแรงทางเพศยังรวมถึงตำรวจที่ชายแดนเมียนมา กลุ่มติดอาวุธชาวพุทธ และกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ ในรัฐยะไข่ด้วย
ปัจจุบัน ผู้ลี้ภัยยังคงหลั่งไหลข้ามพรมแดนจากรัฐยะไข่ไปบังคลาเทศ โดยยูเอ็นประเมินจำนวนชาวโรฮีนจา ซึ่งเคยอาศัยในรัฐยะไข่ว่ามีประมาณ 1 ล้านคน ได้อพยพลี้ภัยความรุนแรงจากการกวาดล้างเผ่าพันธุ์ครั้งล่าสุด
Patten กล่าวว่า ความรุนแรงทางเพศเป็นเหตุผลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการอพยพหนีภัย และเกิดขึ้นในบริบทของการประหัตประหารชาวโรฮีนจาโดยรวม
“ เห็นได้ชัดว่า การข่มขู่คุกคามอย่างกว้างขวางและการใช้ความรุนแรงทางเพศเป็นแรงผลักดันและปัจจัยหนุนให้เกิดการอพยพย้ายถิ่นฐานของคนจำนวนมากและเป็นเครื่องมือของการก่อการร้ายที่วางแผนมาเพื่อให้ชาวโรฮีนจาอพยพลี้ภัยออกไป ”