ภูมิใจไทย ดึงหมอ โต้การเมือง ฉะเดือด อภิปรายวัคซีน
ภูมิใจไทย ดึงหมอ ฉะเดือด อภิปรายปมวัคซีน ยันมีหลักฐานวิชาการรองรับสูตรไขว้ เตรียมคลอดวารสารระดับโลก ลั่น บริหารไม่โง่ ไม่ต้องรอตีพิมพ์
เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่อาคารรัฐสภา นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย นำผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข นำโดย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ แถลงหลังฝ่ายค้านอภิปรายกรณีการฉีดวัคซีนไขว้
นพ.โอภาส กล่าวว่า ตามหลักการแล้วโรคโควิด-19 เป็นโรคอุบัติใหม่ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เรารู้จักสายพันธุ์เดลต้าเพียง 3-4 เดือน ฉะนั้นความรู้ใหม่เปลี่ยนตลอดเวลารวมถึงวัคซีนด้วย ที่สำคัญวัคซีนที่เราใช้กันอยู่ มีข้อมูลยังไม่ถึงปี ดังนั้น ความรู้ และสถานการณ์เปลี่ยนตลอดเวลา การบริหารจัดการก็จะต้องปรับเปลี่ยนให้ทันกับสถานการณ์เพื่อประโยชน์ที่ดีที่สุดของประชาชน อย่างไรก็ตาม ปกติเราฉีดวัคซีนตามแต่ละบริษัทผู้ผลิต แต่เดลต้าทำให้ทุกวัคซีนประสิทธิภาพลดลงหมด แต่ยังลดอาการป่วยหนัก และเสียชีวิต แต่สิ่งที่เราต้องการ คือ ทำให้วัคซีนที่มีอยู่เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นที่มาของการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ เป็นการค้นพบของนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ของประเทศไทย ว่า ภูมิคุ้มกันจะขึ้นสูงกว่าปกติและสามารถฉีดในเวลาสั้นลง
นพ.โอภาส กล่าวว่า กลไกการพิจารณาสูตรวัคซีนต่าง ๆ สธ.ไม่ได้คิดโดยลำพัง แต่มีคณะกรรมการ มีคณะผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านโรคติดเชื้อ ด้านวัคซีน ด้านระบาดวิทยา และอื่น ๆ ร่วมประชุมหาข้อสรุป เพื่อปรับการใช้วัคซีนโดยอ้างอิงหลักฐานวิชาการจากข้อมูลที่เรามีและข้อมูลจากทั่วโลก วัคซีนสูตรไขว้ ก็มีคณะกรรมการวิชาการใน พ.ร.บ.โรคติดต่อ พิจารณาเห็นชอบให้นำสูตรนี้มาใช้เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 64 โดยนำข้อมูลจากกรมวิทย์ฯ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไบโอเทค และคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จะเห็นได้ว่า ผู้เชี่ยวชาญจากแหล่งต่างกัน แต่ได้ข้อสรุปตรงกันว่า สูตรไขว้มีประโยชน์ในการมาใช้ และนำเข้าสู่คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ โดยเห็นชอบให้นำมาใช้ในวันที่ 12 ก.ค. 64 ยืนยันว่า ผ่านความเห็นของคณะกรรมการวิชาการอย่างรอบคอบก่อนนำมาฉีดให้ประชาชน
“ยืนยันว่าในปีนี้เราน่าจะมีวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส และยืนยันเพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจว่าเราจะฉีดวัคซีนตามแผน และเป้าหมายด้วยวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ และความปลอดภัย ขอให้ทุกคนมั่นใจในทีมงานของกระทรวงสาธารณสุข และประเทศไทย” นพ.โอภาส กล่าว นพ.โอภาส กล่าวว่า ส่วนด้านความปลอดภัย ต้องย้ำว่า วัคซีนทุกตัวที่ใช้ในไทย ทางองค์การอนามัยโลก(WHO) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) รับรองการใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว ดังนั้นจะมีความปลอดภัยสูง โดยเราฉีดสะสมแล้วกว่า 32 ล้านโดส และไม่มีรายใดที่คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่าเสียชีวิตจากวัคซีน “ดังนั้นการตั้งคำถามว่าสูตรไขว้ปลอดภัยหรือไม่ ยืนยันว่าปลอดภัย และฉีดให้คนไทยแล้วกว่า 1.5 ล้านคน ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่ามีความปลอดภัย เรา สธ. จะดูแลให้ดีที่สุด” นพ.โอภาส กล่าว
ด้าน นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า เป็นความจำเป็นที่ต้องมีการอภิปรายซ้ำเพราะมีการตั้งข้อสงสัย แต่ต้องเรียนว่าการระบาดในช่วงแรกจะเป็นสายพันธุ์อู่ฮั่น วัคซีนที่ผลิตทุกชนิดเป็นรุ่นแรกซึ่งมีสารตั้งต้นจากไวรัสดั้งเดิม แต่เมื่อมีการกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์จี อัลฟ่า และเดลต้า คณะวิชาการที่เกี่ยวข้องไม่นิ่งนอนใจในการนำวัคซีนมาใช้ มีการติดตามภูมิคุ้มกันหลังรับวัคซีนว่าสามารถสู้กับสายพันธุ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้มากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ มีการกล่าวถึงอาจารย์แพทย์หลายท่าน แต่ขอเรียนว่า ทุกท่านมีความเมตตาต่อกระทรวงสาธารณสุข ที่เข้ามาร่วมให้คำแนะนำ บริหารจัดการ ดังนั้น การที่เราจะใช้วัคซีนใด อย่างไร ท่านได้พิจารณาให้ความเห็นมาโดยตลอด
“มีคนบอกว่าเราไขว้สูตรวัคซีนด้วยซิโนแวค และแอสตร้าฯ เราไม่ได้ตีพิมพ์วิจัยในวารสารวิชาการ ต้องเรียนกรมวิทย์ฯ กำลังส่งตีพิมพ์ แต่งานวิจัยระดับโลกหลังจากที่ได้ผลวิจัยแล้ว กว่าจะส่งให้วารสารตีพิมพ์ จะต้องใช้เวลานาน ดังนั้น สถานการณ์เช่นนี้ หากใครก็ตามที่เป็นผู้บริหารรอให้ตีพิมพ์ก่อนจึงมาบริหารจัดการ ถือว่าโง่มาก” นพ.ศุภกิจ กล่าว และว่า ขณะนี้ รพ.ศิริราช ร่วมกับกรมวิทย์ฯ ได้ทำงานวิจัยออกมา และอยู่ในระหว่างการตีพิมพ์ในวารสารระดับโลกเช่นกัน นพ.ศุภกิจ กล่าวต่อว่า เหตุผลที่ต้องจัดซื้อวัคซีนซิโนแวคเพิ่มก็เกิดจากผลวิจัยที่ออกมาว่า การสู้ดับเดลต้า ด้วยการฉีดซิโนแวค 1 เข็ม ตามด้วยแอสตร้าฯ ห่างกันเพียง 3 สัปดาห์ ให้ภูมิคุ้มกันพอ ๆ กับการฉีดแอสตร้าฯ 2 เข็ม ซึ่งทำให้ครอบคลุมประชากรจากเดิมมากขึ้น 2 เท่า จึงเป็นความจำเป็นในการซื้อซิโนแวคเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม สธ. ไม่เคยพูดว่าการฉีดซิโนแวค 2 เข็ม ยังมีประสิทธิผลต่อเดลต้าสูง เนื่องจากงานวิจัยก็ระบุว่าประสิทธิผลลดลงในทุกวัคซีน เราก็มีแผนกระตุ้นเข็ม 3 สำหรับ 3 ล้านคนที่ฉีดซิโนแวค 2 เข็ม อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าการฉีดวัคซีนไขว้มีความปลอดภัย เนื่องจากมีข้อมูลการฉีดซิโนแวคเป็นเข็มที่ 1 แล้วฉีดแอสตร้าฯ เป็นเข็ม 2 จำนวนหลายพันคน พบว่า ภูมิคุ้มกันขึ้นสูง และไม่มีผลข้างเคียง ทั้งนี้ ยืนยันว่าเราฉีดสูตรไขว้ SA ไปแล้วกว่าล้านคน ยังไม่พบปัญหาใด ๆ จึงขอว่าอย่าพูดให้ประชาชนเกิดความสับสน