เซบาสเตียน เคิร์ซ ว่าที่ผู้นำคนใหม่ของออสเตรีย
ผู้นำพรรคประชาชนออสเตรียซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายขวาประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งระดับประเทศเมื่อคืนวันที่ 15 ต.ค.ทำให้นายเซบาสเตียน เคิร์ซขึ้นแท่นผู้นำประเทศในระบอบประชาธิปไตยที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก
ในวัย 31 ปี นายเซบาสเตียน เคิร์ซ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศและนักการเมืองหนุ่มหัวอนุรักษ์กำลังจะกลายเป็นผู้นำประเทศออสเตรียคนใหม่หลังจากพรรคของเขาได้รับคะแนนเสียงไปมากกว่า 31% จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่าพรรคสังคมประชาธิปไตย หรือพรรคเสรีภาพซึ่งเป็นพรรคฝ่ายขวาจะได้คะแนนตามมาเป็นพรรคที่ 2
คาดการณ์กันว่า พรรคของนายเคิร์ซจะเป็นพันธมิตรกับพรรคเสรีภาพที่มีแนวคิดนโยบายสำคัญคือการต่อต้านผู้อพยพเหมือนกัน
เขาได้กล่าวกับผู้สนับสนุนว่า “ ถึงเวลาของการเปลี่ยนแปลงในประเทศนี้ วันนี้เป็นเหมือนคำสั่งที่เฉียบขาดสำหรับเรา ที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ และผมต้องขอบคุณพวกคุณทุกคนที่ทำให้เรื่องนี้เป็นไปได้ ”
“ ผมรู้สึกซาบซึ้งใจ มีความสุข และมุ่งหวังจะทำงานเพื่อประเทศออสเตรีย ”
โดยก่อนหน้าการเลือกตั้งครั้งนี้ นายเคิร์ซเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศที่มีอายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมาในยุโรป โดยเขาได้รับตำหน่งนี้ในปี 2556 ด้วยวัยเพียง 27 ปี
จะเห็นได้ว่า ตำแหน่งผู้นำประเทศในยุโรปช่วงนี้ตกอยู่ในมือของคนหนุ่มแทบทั้งสิ้น เห็นได้จากเมื่อช่วงต้นปีนี้ที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ชนะการเลือกตั้งและได้เป็นผู้นำของฝรั่งเศสคนใหม่ในวัย 39 ปี ก่อนหน้านี้ ในปี 2557 อิตาลีก็มีนายกรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดในวัย 39 ปีเช่นกันคือมัตเตโอ เรนซี ขณะที่นายกรัฐมนตรีของแคนาดาคือนายจัสติน ทรูโดก็เป็นคนหนุ่มในวัย 40 ต้นๆ เช่นกัน
ความสำเร็จของนักการเมืองหนุ่ม ชี้ให้เห็นว่า ประชาชนให้ความสำคัญกับประสบการณ์ในด้านการเมืองของผู้สมัครน้อยลง ความเยาว์วัยและความดึงดูดใจดูจะเป็นเหตุผลที่สำคัญกว่าไปแล้ว
เคิร์ซเจริญรอยตามพรรคอนุรักษ์นิยมของนายมาครงในเรื่องอายุและการปฏิรูปพรรค โดยเขาได้ทำการรีแบรนด์พรรคประชาชนเดิม ซึ่งเป็นพรรคเก่าแก่มานานมากกว่า 30 ปีให้เป็นพรรคประชาชนใหม่
นโยบายสำคัญของเขาคือการต่อต้านผู้อพยพ และจุดยืนของเขาได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นที่ถูกใจของประชาชนชาวออสเตรียที่มาลงคะแนนเสียง หลังจากเกิดการหลั่งไหลเข้ามาในยุโรปของผู้อพยพและผู้ลี้ภัยอย่างล้นทะลักจากตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ กลายเป็นวิกฤตผู้ลี้ภัยของยุโรปในปี 2558
โดยในช่วงการรณรงค์หาเสียง เขาได้ให้คำมั่นกับผู้สนับสนุนที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมและฝ่ายขวาว่าจะปิดกั้นเส้นทางผู้อพยพมายุโรป ลดการจ่ายเงินด้านผลประโยชน์ให้ผู้ลี้ภัย และระงับไม่ให้ผู้อพยพได้รับผลประโยชน์จนกว่าจะอาศัยอยู่ในออสเตรียครบ 5 ปี.