เอกชน เสนอ ศบศ.ช่วยเหลือ SMEs
ส.อ.ท.เตรียมยื่น 4 แนวทาง เสนอต่อที่ประชุม ศบศ. ช่วยเหลือ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
หลังจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)และสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย ได้เสนอแนวช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ต่อภาครัฐไปแล้ว หลายอย่างแนวทางโดยเฉพาะด้านการเงิน แต่ ผู้ประกอบการ SMEs ก็ยังคงประสบปัญหาอยู่
ล่าสุด นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท. บอกว่า ทั้ง 2 หน่วยงานได้หารือ และมีความเห็นร่วมกัน ที่จะเสนอนายกรัฐมนตรี พิจารณาแนวทางการช่วยเหลือ SMEs เพิ่มเติม 4 แนวทาง ในการประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) วันที่ 22 ก.ค.นี้ คือ
1. ให้พิจารณาเพิ่มสัดส่วนการค้ำประกันความเสียหายผ่านบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 60 เพื่อให้สถาบันการเงินสามารถให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาในช่วงนี้ได้มากขึ้น
2. พิจารณาให้ผู้ประกอบการที่เป็นลูกหนี้สถาบันการเงินที่เข้าเกณฑ์ NPL ที่เกิดขึ้นในช่วงโควิดจนถึง 3 ปี นับจากสิ้นสุดช่วงโควิด ไม่มีประวัติข้อมูลที่บ่งบอกถึงประวัติการชำระหนี้หรือสินเชื่อใน Credit Bureau (บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด)
3. ขอให้พิจารณาผ่อนคลายเงื่อนไขการปล่อยกู้ตามประกาศ ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เขียนไว้ว่า “ให้สภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการที่ยังพอมีศักยภาพ” โดยให้เป็นดุลยพินิจของสถาบันการเงิน ซึ่งการเข้มงวดกับคำว่าศักยภาพที่ยึดโยงกับรายได้ในอนาคตที่ไม่แน่นอนจากสถานการณ์วิกฤติไม่ปกติจะเป็นอุปสรรคลำดับแรก ที่สถาบันการเงินจะยังไม่พิจารณาปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มผู้ประกอบการที่เป็น NPLs จากผลกระทบของ COVID-19
4. ให้ความช่วยเหลือในเรื่องความจำเป็นเร่งด่วนด้านสาธารณสุข โดยการจัดหา Rapid Test ให้กับผู้ประกอบการ SMEs
ด้านนายชนินท์ ว่องกุศลกิจ นายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย บอกว่า ทางสมาคมฯ ได้ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ดำเนินแนวทางเร่งด่วนในการช่วยเหลือ SME เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจให้สามารถประคับประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นช่วงโควิด โดยเริ่มจากขอความร่วมมือจากบริษัทจดทะเบียนที่มีศักยภาพให้ชำระค่าสินค้าและบริการล่วงหน้าบางส่วน ขยายระยะเวลาเรียกเก็บหนี้ ลดระยะเวลาชำระหนี้ และเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ลูกจ้าง/พนักงาน โดยจ่ายเงินเดือนทุก 15 วัน
นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือจากบริษัทจดทะเบียนเพื่อระดมความช่วยเหลือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในการจัดทำ Rescue Box สำหรับผู้ป่วยโควิดที่แยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) หรือผู้ป่วยโควิดที่แยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) และขอให้ภาครัฐเร่งฉีดวัคซีนในกลุ่มธุรกิจเพื่อประคองเศรษฐกิจของประเทศ อาทิ ภาคส่งออก ภาคก่อสร้าง และโรงงานต่างๆ ด้วย
สำหรับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้จัดตั้งกองทุน ส.อ.ท. ช่วยไทยสู้ภัยโควิด-19 เพื่อให้ความช่วยเหลือในเรื่องความจำเป็นเร่งด่วนด้านสาธารณสุข ทั้งการจัดหา Rapid Test ให้กับผู้ประกอบการ SMEs และประชาชน, สร้างห้องความดันลบ, จัดหาวัคซีนเพิ่มเติมและสภาอุตสาหกรรมฯ ยังจะเข้าไปสนับสนุนโครงการ Rescue Box สำหรับผู้ป่วยโควิดของสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทยเพิ่มเติมโดยจัดหาสิ่งของที่จำเป็นและยาเข้าไปสมทบ หรือการช่วยเหลืออื่นๆ ที่ภาคสาธารณสุขมีความจำเป็น
นอกจากนี้ ยังหารือแนวทางความช่วยเหลือเร่งด่วนด้านเศรษฐกิจ อาทิ การผลักดันโครงการ Faster Payment ให้บริษัทที่เข้าร่วมโครงการจะลดระยะเวลา Credit term ให้แก่คู่ค้าของบริษัทโดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ในระยะเวลา 30 วันต่อไปจนถึงสิ้นปี ความร่วมมือกันในการจัดทำสินเชื่อ Supply Chain Factoring เพื่อช่วย SMEs โดยจะหารือร่วมกับสถาบันการเงินเพื่อให้เกิดขึ้นให้ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศด้วยการสนับสนุนสินค้าที่ได้ขึ้นทะเบียน Made in Thailand แล้วด้วย”
นายสุพันธุ์ ยังบอกอีกว่า นอกจากนี้ ยังได้หารือกันถึงความร่วมมืออื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ ส่งเสริม SME ให้จัดทำบัญชีเดียว ผ่านการเสริมรากฐานทักษะความรู้ที่จำเป็นสำหรับผู้ประกอบการ และเพิ่มศักยภาพ SME เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเติบโตระยะยาวซึ่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่องผ่าน LiVE Platform การช่วยเหลือแรงงานที่ตกงานจากสถานการณ์ COVID-19 และความร่วมมือในกองทุนนวัตกรรม
โดยจะได้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อจัดทำรายละเอียดอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในมาตรการเร่งด่วนเพื่อให้ทันกับสถานการณ์วิกฤติในปัจจุบัน แต่ในระยะยาวก็จะได้จัดทำแนวทางพัฒนาและช่วยเหลือ SMEs ด้านอื่นๆ เพิ่มเติม