เฮอร์ริเคนกระทบตลาดแรงงานสหรัฐฯ
อัตราการจ้างงานของสหรัฐฯในเดือนก.ย.ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2553 จากผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์และเออร์มาที่ส่งผลต่อตลาดแรงงาน
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานหายไป 33,000 ตำแหน่งจากการจ้างงานที่ลดลงในภาคส่วนสันทนาการและโรงแรม โดยอ้างว่าเป็นผลกระทบมาจากพายุเฮอร์ริเคนทั้งสองลูก ซึ่งถล่มรัฐเท็กซัสและฟลอริดาจนอ่วมในช่วงปลายเดือนส.ค.และต้นเดือนก.ย.
นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะมีงานเพิ่มขึ้น 90,000 งานในเดือนที่แล้ว อย่างไรก็ตาม พายุฮาร์วีย์และเออร์มาไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออัตราการว่างงาน ซึ่งลดลงเหลือ 4.2% เป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปี 2544
โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯใช้ผลการสำรวจที่แยกกันเพื่อรวบรวมข้อมูลการจ้างงานและตัวเลขการว่างงาน
กัส ฟาวเชอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่ PNC Financial Services กล่าวว่า “ถึงแม้ตัวเลขพาดหัวสำหรับเดือนก.ย. คืองานที่หดหายไปเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี แต่ตลาดแรงงานยังคงอยู่ในสภาพดี”
โดยตัวเลขงานที่แข็งแกร่งที่สุดในเดือนก.ย.มาจากภาคส่วนการดูแลสุขภาพและคมนาคมขนส่ง และอุตสาหกรรมคลังสินค้า แต่การจ้างงานในด้านสันทนาการและโรงแรมหดตัวลงอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ตัวเลขในอุตสาหกรรมอื่น ทั้งการก่อสร้างและรัฐบาล ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย
ทั้งนี้ สหรัฐฯกำลังอยู่ในช่วงหนึ่งของช่วงเวลาในการสร้างงานที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยเศรษฐกิจของจำนวนงานที่เพิ่มเฉลี่ย 170,000 งานต่อเดือนตลอดทั้งปีที่ผ่านมา
นักเศรษฐศาสตร์มองว่า ตัวเลขนี้จะไม่ยั่งยืนและทำนายว่าจะชะลอตัวลง แต่ในส่วนค่าจ้าง พวกเขากล่าวว่ายากที่จะอธิบายในตลาดงานที่ตึงตัวมากขึ้น
จากรายงานของเดือนก.ย.ชี้ว่า รายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 0.5% จากเดิอนส.ค. และตอนนี้เพิ่มขึ้น 2.9% ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา
นาอีม อัสลัม นักวิเคราะห์จาก ThinkMarkets กล่าวว่า ตัวเลขรายได้แสดงให้เห็นว่าความซบเซาของตลาดงานกำลังจางหายไป
นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า ยังไม่เห็นสัญญาณในรายงานของเดือนก.ย.ที่จะหยุดยั้งไม่ให้ธนาคารกลางสหรัฐฯปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในช่วงก่อนสิ้นปีนี้ อย่างที่คาดการณ์ไว้
เอียน เชฟเฟิร์ดสัน จาก Pantheon Macroeconomics กล่าวว่า การว่างงานก็มีผล และรายงานนี้ก็ยิ่งทำให้มีแนวโน้มที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.
การประเมินตัวเลขการจ้างงานที่ปรับเปลี่ยนในเดือนก.ค.และ ส.ค.ชี้ว่า สหรัฐฯมีการจ้างงานเพิ่มน้อยกว่าที่เคยรายงานก่อนหน้านี้ 38,000 งาน แต่เชฟเฟิร์ดสันกล่าวว่า เขาคาดการณ์ว่า การฟื้นตัวจะเริ่มในเดือนต.ค.และจะฟื้นคืนกลับมาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในเดือนพ.ย.นี้.