คปภ.เร่งผุดแอพฯแก้ปม “ชนแล้วไม่แยก”
คปภ.เร่งสร้างแอพพลิเคชั่นตัวใหม่ หวังแก้ปัญหารถยนต์ชนกันจนกีดขวางการจราจร เผยปัญหาโครงการ “ชนแล้วแยก” ไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะบริษัทประกันภัยไม่ยอมรับกติกา ชี้หากเคลื่อนย้ายรถออกจากที่เกิดเหตุ อาจเกิดปัญหาตามมา คาดประกาศบังคับใช้หลักเกณฑ์นี้กับทุกบริษัท ช่วงปลายปีนี้หรืออย่างช้าต้นปีหน้า
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวถึงปัญหาของโครงการ “ชนแล้วแยก” ที่ไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งความหวังไว้ ว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบริษัทประกันภัยบางแห่งไม่ยอมรับหลักเกณฑ์การพิจารณาตามที่ตกลงกันไว้ เนื่องจากมีบางกรณีพิสูจน์ไม่ได้ว่ารถยนต์ที่ชนกันแล้วใครเป็นฝ่ายผิด เมื่อทำการเคลื่อนย้ายรถคู่กรณีออกจากที่เกิดเหตุ จึงทำให้ฝ่ายที่ผิดไม่รับผิดชอบ อาจกลายเป็นปัญหาส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าผู้เอาประกันต่อบริษัทประกันภัยได้
นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาแสดงความเห็นกรณีปัญหารถติดจากสาเหตุรถยนต์ชนกันและต้องรอจนกว่าเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัยจะมาถึงที่เกิดเหตุจึงจะแยกรถคู่กรณีออกจากกันได้ ดังนั้น คปภ.ในฐานะองค์กรกลางมีหน้าที่กำกับดูแลบริษัทประกันภัย จึงพยายามหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อให้โครงการ “ชนแล้วแยก” เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย โดยเฉพาะบริษัทประกันภัย
ทั้งนี้ คปภ. ซึ่งเคยเดินทางไปศึกษาและดูงานในการไขปัญหาที่มีลักษณะใกล้เคียงกันที่ประเทศจีน จึงคิดจะนำแอพพลิเคชั่นที่มีความสามารถขั้นสูงในการพิจารณาภาพถ่ายจากมุมกล้องที่ต่างฝ่ายต่างถ่ายภาพของรถยนต์ที่ชนกัน เพื่อนำมาวิเคราะห์และประเมินผลหาคนถูกและคนผิดในแต่ละกรณี โดยแอพพลิเคชั่นดังกล่าวอยู่ระหว่างการออกแบบแก้ไขของบริษัทสตาร์ทอัพไทยที่ความรู้และความเชี่ยวชาญในการออกแบบแอพพลิเคชั่นตามที่ คปภ.ต้องการ คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้หรืออย่างช้าก็ต้นปีหน้า
“ คปภ.ได้หารือกับทางสมาคมประกันวินาศภัยไทยและบริษัทประกันภัยบ้างแล้ว ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่าควรต้องมีแอพพลิเคชั่นที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ซึ่งเมื่อทุกฝ่ายยอมรับในเงื่อนไขนี้ การประกาศบังคับใช้โดยออกเป็นข้อกำหนดหรือระเบียบปฏิบัติก็ไม่ใช่ยาก เพียงแต่ตอนนี่ คปภ.ต้องทดสอบจนมั่นใจเสียก่อนว่าแอพพลิเคชั่นดังกล่าว สามารถใช้งานได้จริงและประมวลผลหาคนถูกคนผิดได้ตรงตามข้อเท็จจริง จนทุกฝ่ายให้การยอมรับ จึงจะประกาศใช้อย่างเป็นทางการต่อไป ทั้งนี้ หากแอพพลิเคชั่นดังกล่าวถูกนำมาใช้งานในภาคสนามได้แล้ว เชื่อว่าปัญหารถติดจากการชนกันของรถยนต์จะค่อยๆ คลี่คลายลง เพราะทุกฝ่ายจะเข้าสู่โครงการชนแล้วแยกได้อย่างมั่นใจ ” นายสุทธิพลย้ำในที่สุด.
