ต.ต่อยอดฯหนุนปณท.สู่เบอร์1 ขนส่งเออีซี
ตลาดต่อยอด เออีซี ผนึก ปณท.ลุยสยายปีกรับ-ส่งสินค้าทั่วไทยและทั่วอาเซียน บิ๊ก ปณท. เผย อาศัยเครือข่ายพันธมิตรไปรษณีย์เพื่อนบ้าน ต่อยอดความสำเร็จสู่เป้าหมายเบอร์ 1 ในภูมิภาคนี้ คาดโครงการค้าส่งใหญ่สุดในเออีซีเปิดให้บริการปลายปีนี้ ตั้งเป้ายอดขายปีละ 1 หมื่นล้านในช่วงต้น
นายโสมพัฒน์ ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนางวัลลภา ไตรโสรัส กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัท แอสเสท เวิร์ด คอร์ปอเรชั่น จำกัด พร้อมผู้บริหารบริษัท ตลาดต่อยอด เออีซี จำกัด ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับนางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) เปิดศูนย์บริการรับส่งสินค้าภายในโครงการ “ตลาดต่อยอด เออีซี เทรด เซ็นเตอร์” ศูนย์ค้าส่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน
นายโสมพัฒน์กล่าวว่า ตลาดต่อยอดฯเห็นความสำคัญของกลุ่มประเทศอาเซียนที่ประชาชกรกว่า 640 ล้านคน และไทยถือเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งที่สามารถกระจายสินค้าได้ทั่วภูมิภาคอาเซียน การได้พันธมิตรที่มีความเป็นมืออาชีพและประสบการณ์ด้านการขนส่งกระจายสินค้าอย่าง ปณท. จะช่วยให้บริการขนส่งและโลจิสติกส์แก่ผู้ประกอบการในตลาดต่อยอดฯและกลุ่มผู้ซื้อจากต่างประเทศไทยเป็นไปอย่างดีและมีประสิทธิภาพ
ด้านนางวัลลภากล่าวเสริมว่า นอกจากความร่วมมือด้านศูนย์ให้บริการของ ปณท.ภายในโครงการตลาดต่อยอดฯ ยังมีการผสานความร่วมมือด้านการประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างองค์ความรู้และให้คำปรึกษาในการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนจัดหาสิทธิประโยชน์ต่างๆ แก่ผู้ประกอบการไทย โดยมีเป้าหมายมุ่งเน้นการสร้างการเติบโตทางธุรกิจ อันเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายการค้า ทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนส่งผลต่อการเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย เพื่อให้สามารถแข่งขันในระดับโลกได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
ขณะที่ นางสมรกล่าวว่า ความร่วมมือกับตลาดต่อยอดฯ ซึ่งตัวโครงการถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญทางด้านโลจิสติกส์ทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้น การที่ ปณท.ได้รับโอกาสที่ดีครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อ ปณท.และผู้ประกอบการในพื้นที่ รวมถึงมีส่วนทำให้โครงการตลาดต่อยอดฯเป็นศูนย์กลางด้านการส่งออกของภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริง โดย ปณท.จะเปิดจุดรับ-ส่ง และกระจายสินค้าในโครงการนี้รวม 3 จุด แยกเป็นเคาท์เตอร์บริการไปรษณีย์ 1 แห่ง และจัดพักเพื่อรวบรวมและเตรียมขนส่งสิ่งของสู่เส้นทางไปรษณีย์อีก 2 แห่ง
“เราเองมีเป้าหมายที่จะพัฒนาการให้บริการไปรษณีย์และโลจิสติกส์ ตอบสนองผู้บริโภคในยุคดิจิทัล โดยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ดำเนินงาน เนื่องจากมองเห็นการเติบโตของธุรกิจการค้าขายทางออนไลน์ (อีคอมเมิร์ช์) ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด ไม่เพียงการมีเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ในประเทศ เรายังมีเครือข่ายความร่วมมือกับกิจการไปรษณีย์ของประเทศในย่านอาเซียน ที่สามารถจะส่งต่อการให้บริการที่รู้จักที่อยู่ปลายทางของการนำส่งสินค้าและพัสดุทั่วทุกตารางนิ้วของทุกประเทศ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งและจุดขายของเรา” นางสมร ระบุ
ส่วนนายธนฑิต เจริญจันทร์ เจ้าหน้าที่บริหารสายงานปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท แอสเสท เวิร์ด คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า โครงการนี้ใช้เงินลงทุนกว่า 6,000 ล้านบาท สร้างอาคารที่จะรองรับนักลงทุน ลูกค้าและนักท่องเที่ยว แยกตามกลุ่มสินค้า รวม 10 อาคาร อาทิ อาคารกลุ่มสินค้าประเภทสิ่งทอ เครื่องประดับ เสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องสำอาง สินค้าเด็ก, กลุ่มสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าโอทอป, อาคารกลุ่มสินค้าอุปกรณ์ประดับยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือช่าง, อาคารกลุ่มสินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์, อาคารกลุ่มขนส่งสินค้าครบวงจรทั่วไทยและภูมิภาคอาเซียนเป็นต้น
“ตอนนี้เราขายพื้นที่ไปแล้วกว่า 70% และได้ชะลอการขายพื้นที่เพื่อเก็บส่วนที่เหลือเอาไว้ขายหลังจากการตัวโครงการแล้ว ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากโครงการฯคืบหน้าไปแล้วกว่า 90% ทั้งนี้ คาดว่าจะมีกำลังซื้อทั้งจากลูกค้าในประเทศ และกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งประเภทนักท่องเที่ยวทั่วไป และกรุ๊ปทัวร์ที่เดินทางมาเพื่อการซื้อสินค้าในราคาขายส่งโดยเฉพา ไม่ต่ำกว่าปีละ 10,000 ล้านบาทในช่วงแรก และจะเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป โดยขณะนี้ เราได้ประสานกับบริษัททัวร์ต่างๆ ไว้บ้างแล้ว รวมถึงการจัดเตรียมพื้นที่สำหรับเป็นจุดให้บริการรถตู้โดยสารรับ-ส่งผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวจากตัวเมืองชั้นใน รวมถึงรับ-ส่งผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวจากโครงการฯไปยังสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิในโอกาสต่อไป เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าและนักท่องเที่ยวให้มากที่สุด”
นายธนฑิตย้ำด้วยว่า โครงการ “ตลาดต่อยอด เออีซี เทรด เซ็นเตอร์” จะช่วยลดปัญหาการเดินทางของลูกค้าในประเทศที่มาจากภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางเข้ามาในเมือง เนื่องจากที่ศูนย์ค้าส่งแห่งนี้มีสินค้าที่มากมายและหลากหลายให้เลือกในราคาขายส่งเหมือนกับในตัวเมือง แต่มีพื้นที่บริการที่ครบวงจรมากกว่า อย่างไรก็ตาม บริษัทฯมีแผนจะขยายศูนย์ค้าส่งในลักษณะนี้ไปยังหัวเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ โดยขอดูความสำเร็จจากโครงการนำร่องนี้ก่อน.