เชื่อมั่นธุรกิจญี่ปุ่นสูงสุดในรอบ 10 ปี
ผลสะท้อนจากการฟื้นตัวที่มีเสถียรภาพของเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้ความเชื่อมั่นทางธุรกิจในระหว่างกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่นปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกันเป็นไตรมาสที่ 4 ในไตรมาสสิ้นสุดเดือนก.ย. อ้างอิงจากดัชนี Tankan ซึ่งเป็นผลการสำรวจต่อไตรมาสของธนาคารกลางญี่ปุ่นที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา
ดัชนีสำคัญสำหรับความเชื่อมั่นของผู้ผลิตรายใหญ่พุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 22 จุดในเดือนก.ย. ปรับเพิ่มขึ้นมา 5 จุดจากการสำรวจในเดือนมิ.ย. โดยค่าดัชนีที่อ่านได้สูงกว่าค่าประเมินเฉลี่ยอยู่ที่ 18 จุดจาก 23 สถาบันวิจัย ที่รวบรวมโดย QUICK และเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปี 2550 เป็นต้นมา
ช่วงเวลาที่ความเชื่อมั่นทางธุรกิจอยู่ในแดนบวกต่อเนื่องกันยาวนานที่สุด อยู่ในการสำรวจตั้งแต่เดือนธ.ค.ปี 2555 ถึงเดือนมี.ค.ปี 2557 เมื่อความเชื่อมั่นของบริษัทปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 5 ไตรมาส
ผู้ผลิตรายใหญ่คาดการณ์ว่า ค่าเงินเยนเฉลี่ยในปีงบประมาณ 2560 จะปรับเป็น 109.29 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ คาดการณ์ว่าเงินเยนจะอ่อนค่าลงกว่าที่สำรวจเมื่อ 3 เดือนก่อน แต่แข็งค่ากว่าปัจจุบันที่ 112 เยน หากค่าเงินดอลลาร์ – เยนยังคงเป็นเช่นนี้ รายได้ของบริษัทจะได้รับผลกระทบในแง่บวก
“ดัชนี Tankan ในเดือนก.ย.ชี้ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจเกิดจากเงินเยนที่อ่อนค่าลง รวมถึงการปรับตัวขึ้นของเศรษฐกิจโลก ซึ่งกำลังแทรกซึมเข้ามาในญี่ปุ่น” นักเศรษฐศาสตร์เขียนไว้ในรายงานจาก SMBC Nikko Securites
อย่างไรก็ตาม พวกเขาชี้ว่า สภาพธุรกิจที่ซบเซาอยู่ในภาคส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิต เช่น ค้าปลีกและบริการจัดหาที่พัก รวมถึงบริการด้านอาหารและเครื่องดื่มด้วย
เมื่อมองถึงเหตุการณ์ล่วงหน้า ทั้งผู้ผลิตและไม่เกี่ยวข้องกับผู้ผลิตต่างมองในแง่ดีน้อยลง โดยทั้งสองภาคส่วนคาดการณ์ว่าดัชนีจะร่วงลงมาอยู่ที่ +19 ในไตรมาสหน้า โดยสิ่งที่ผลักดันในแง่ลบคือตลาดแรงงานที่ตึงตัว ซึ่งยังคงสร้างความกังวลให้ธุรกิจ ดัชนีชี้วัดด้านสภาพงานสำหรับหน่วยงานขนาดใหญ่ลดลงมาอยู่ที่ -18 ลดลงมา 2 จุดจากการสำรวจครั้งก่อนและต่ำที่สุดนับตั้งแต่การสำรวจในเดือนมี.ค.ปี 2535
ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กก็รู้สึกได้ถึงสภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น โดยดัชนีความเชื่อมั่นในสภาพธุรกิจของผู้ประกอบการขนาดเล็กอยู่ที่ 9 จุดในการสำรวจเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 2 จุดจากการสำรวจครั้งก่อนและสูงที่สุดนับตั้งแต่การสำรวจตั้งแต่เดือนพ.ย.ปี 2534 เป็นต้นมา
ที่ผ่านมา บริษัทขนาดเล็กถูกทิ้งไว้เบื้องหลังผู้ประกอบการธุรกิจขนาดใหญ่ในช่วงเวลาระหว่างการขยายตัวทางเศรษฐกิจก่อนหน้าที่จะเกิดวิกฤตการเงินในปี 2551 ซึ่งเติบโตพุ่งขึ้นสูงสุดในปี 2548 – 2549 ด้วยการขยายตัวทางเศรษฐกิจในรอบปัจจุบันที่ต่อเนื่องมาถึง 58 เดือนติดต่อกัน (ซึ่งเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่นานที่สุด) ธุรกิจขนาดเล็กกำลังเริ่มที่จะรู้สึกได้ถึงผลกำไร
แต่ตลาดแรงงานที่ตึงตัวสร้างความกังวลให้ธุรกิจขนาดเล็กด้วยเช่นกัน เมื่อเทียบกับธุรกิจขนาดใหญ่ เป็นเรื่องยาก
กว่าสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่จะจ้างงานคนในตลาดแรงงานที่ตึงตัว ทำให้พวกเขามีความเสี่ยงที่จะพลาดโอกาสทางธุรกิจ รวมถึงการประสบความสำเร็จในธุรกิจด้วย โดยดัชนีชี้วัดสภาพแรงงานในธุรกิจขนาดเล็กอยู่ที่ -32 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดตั้งแต่ปี 2535 เป็นต้นมา
ดัชนีความเชื่อมั่น Tankan ซึ่งมาจากการจับตาดูอย่างใกล้ชิดของนักเศรษฐศาสตร์และตลาดการเงิน ถูกคำนวณด้วยการหักจำนวนผู้ตอบแบบสำรวจที่กล่าวว่าสภาพธุรกิจแย่ออกไป การอ่านค่าออกมาได้เป็นบวกหมายถึงผู้ตอบแบบสำรวจที่มองในแง่ดีมีจำนวนมากกว่าผู้ที่มองในแง่ร้าย โดยผลสำรวจครั้งล่าสุดจัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 29 ส.ค. – 29 ก.ย.ที่ผ่านมา.