จีนสั่งปิดบริษัทเกาหลีเหนือ
จีนสั่งให้บริษัทของเกาหลีเหนือที่ดำเนินงานในประเทศจีนปิดกิจการ เพื่อเป็นการปฏิบัติตามมติการคว่ำบาตรจากสหประชาชาติที่ให้เกาหลีเหนือโดดเดี่ยว
โดยบริษัทของเกาหลีเหนือเหล่านี้จะต้องปิดตัวลงภายในเดือนม.ค.ปีหน้า ทั้งนี้ บริษัทร่วมทุนระหว่างจีนและเกาหลีเหนือก็ถูกสั่งปิดด้วยเช่นกัน
จีนซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญเพียงหนึ่งเดียวของเกาหลีเหนือได้สั่งแบนการค้าสิ่งทอและจำกัดการส่งออกปริมาณน้ำมันมาก่อนหน้านี้แล้ว
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการขานรับต่อมติจากนานาชาติที่มีต่อการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 และเป็นครั้งที่ทรงประสิทธิภาพสูงสุดของเกาหลีเหนือเมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
ซึ่งจีนเป็นประเทศสมาชิก มีมติอย่างเป็นเอกฉันท์ให้มีมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อเกาหลีเหนือเมื่อวันที่ 11 ก.ย.
รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของจีนกล่าวว่า รัฐบาลจีนขีดเส้นตายไว้ให้ 120 วันสำหรับบริษัทของเกาหลีเหนือในดินแดนของจีนที่จะใช้ในกระบวนการเปลี่ยนผ่านเพื่อปิดตัวลง
ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือมีระบบการเมืองและเศรษฐกิจที่โดดเดี่ยว และทำการค้าส่วนใหญ่กับจีน จีนเองแสดงท่าทีปกป้องประเทศเพื่อนบ้านรายนี้ แต่ก็ยกระดับการวิจารณ์การทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือมากขึ้นเรื่อยๆ
ช่วงต้นปี 2560 นี้ ปักกิ่งลดปริมาณการซื้อถ่านหินจากเปียงยาง รวมถึงการค้าข้ามพรมแดนอย่างอาหารทะเลและเหล็ก เมื่อรวมกับการถูกแบนสิ่งทอ เกาหลีเหนือจึงถือว่าสูญเสียแหล่งรายได้จากต่างประเทศจำนวนมาก
จีนถูกกดดันจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ซึ่งทั้งชื่นชมและกล่าวโทษจีนอยู่ตลอดเวลา ให้มีการคว่ำบาตรเกาหลีเหนืออย่างจริงจัง
ทั้งนี้ ทางเปียงยางไม่ได้เผยแพร่ข้อมูลทางเศรษฐกิจต่อสาธารณะ จึงทำให้นักเศรษฐศาสตร์ต้องเดาศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศนี้เอาเอง แต่ธนาคารกลางเกาหลีใต้ประเมินข้อมูลได้จากสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
โดยเกาหลีใต้ประเมินว่าในปี 2559 เศรษฐกิจของเกาหลีเหนือเติบโตสูงที่สุดในรอบ 17 ปี ด้วยตัวเลขจีดีพี 3.9% ถึงแม้จะมีการคว่ำบาตรจากนานาชาติก็ตาม มีร้านค้าและตลาดเล็กๆผุดขึ้นมากมายในเปียงยางในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าประชาชนชาวเกาหลีเหนือจะมีความสุขสบาย เนื่องจากเกาหลีเหนือใช้งบประมาณจำนวนมากเพื่อสนับสนุนกองทัพ โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่า งบประมาณทางการทหารมีสัดส่วนถึง 25% ของจีดีพีของประเทศ ความเหลื่อมล้ำทางด้านรายได้กำลังเพิ่มขึ้น เห็นได้จากร้านค้าบางร้านที่มีสต็อกสินค้าราคาแพงจำนวนมาก ในขณะที่ประชาชนธรรมดามีเพียงเล็กน้อย ถึงแม้จะมีมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ แต่จีนก็ยังทำการค้าน้ำมันกับเกาหลีเหนือในปริมาณจำกัดอยู่
สินค้าส่งออกสำคัญของเกาหลีเหนือในปี 2558 คือถ่านหิน ซึ่งทำรายได้ให้ประเทศประมาณ 952 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 31,930 ล้านบาท ถือว่าไม่มากเมื่อเทียบกับการส่งออกเซอร์กิตบอร์ดของเกาหลีใต้ที่มีมูลค่าถึง 63,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 2.1 ล้านล้านบาท.
