ซาอุฯ ยอมให้ผู้หญิงขับรถได้
สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งซาอุดิอาระเบียทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตราพระราชกฤษฏีกาฉบับใหม่ขึ้นเพื่ออนุญาตให้สตรีสามารถขับรถยนต์ได้เป็นครั้งแรก อ้างอิงจากการรายงานของสื่อภาครัฐ
โดยสำนักข่าว Saudi Press รายงานว่า รัฐมนตรีในรัฐบาลเตรียมเสนอร่างพระราชกฤษฏีกาภายใน 30 วัน และรัฐบาลจะพิจารณาจนมีการประกาศใช้ภายในวันที่ 24 มิ.ย. ปี 2561
ทั้งนี้ ซาอุฯเป็นประเทศเดียวในโลกที่ห้ามไม่ให้ผู้หญิงขับรถ ในปัจจุบัน มีแต่ผู้ชายที่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ และผู้หญิงที่ขับรถยนต์ในที่สาธารณะมีความเสี่ยงที่จะถูกจับกุมและถูกปรับ
จากกฎหมายที่เคร่งครัดนี้ ทำให้ครอบครัวจำนวนมากต้องจ้างคนขับรถส่วนตัวเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้หญิงในการเดินทาง
กลุ่มสิทธิในซาอุฯได้รณรงค์ผลักดันในเรื่องนี้มานานหลายปีที่จะให้ทางการอนุญาตให้ผู้หญิงขับรถได้ และมีสตรีจำนวนหนึ่งที่ต้องโทษจำคุกจากการกระทำที่ผิดกฎหมาย
เจ้าชายคาเลด บิน ซัลมัน เอกอัครราชทูตซาอุฯประจำสหรัฐฯ ทรงตรัสว่า นี่เป็นวันในประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่และเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องในเวลาที่ถูกต้องเหมาะสม
สหรัฐฯขานรับความเคลื่อนไหวนี้ โดยระบุว่า เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ในทิศทางที่ถูกต้อง ขณะที่ลูเจน อัล-ฮัธลูล นักเคลื่อนไหวชาวซาอุฯ ซึ่งถูกควบคุมตัวนาน 73 วันในปีนี้ ทวีตข้อความว่า “ขอบคุณพระเจ้า” หลังทราบคำประกาศ และ มานาล อัล-ชาริฟ ผู้ประสานงานการรณงค์แคมเปญ Woman2Drive ซึ่งเคยถูกจำคุกจากการขับรถ กล่าวบนทวิตเตอร์ว่า ซาอุฯจะไม่เหมือนเดิมอีก
ทั้งนี้ แฮชแท็ก “ฉันเป็นผู้ปกครองตัวเอง” และ “ผู้หญิงซาอุฯขับรถได้” แพร่กระจายอย่างรวดเร็วบนโซเชียลมีเดีย
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะขานรับกับข่าวนี้ในเชิงบวก เนื่องจากยังมีเสียงจากกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่กล่าวหารัฐบาลว่า ทำผิดไปจากชะรีอะห์หรือกฎหมายศาสนาอิสลาม
“เท่าที่จำได้ ชะรีอะห์ห้าม (haram) ไม่ให้ผู้หญิงขับรถ ทำไมถึงกลายมาเป็นอนุญาต (halal) ได้” นักวิจารณ์รายหนึ่งทวีตแสดงความคิดเห็น
นี่ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับซาอุฯ เนื่องจากที่ผ่านมา ชาวซาอุฯ ต้องจ้างคนขับรถประจำครอบครัว เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้หญิง โดยคนขับรถส่วนใหญ่มาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องมีการจัดหาที่พัก อาหาร และทำประกันสังคมให้คนขับ มีการประเมินว่า จำนวนคนขับรถต่างชาติในซาอุฯ สูงประมาณ 800,000 คน
แต่ถึงแม้จะมีการพัฒนาล่าสุดในครั้งนี้ แต่ซาอุฯยังคงห่างไกลในเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ สตรีซาอุฯต้องแต่งกายปกปิดมิดชิด ต้องไม่พูดคุยกับชายที่ไม่เกี่ยวข้อง และหากต้องการเดินทางต้องได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองที่เป็นชายเท่านั้น.