IP ผนึก มอ. ลุย R&D “กระท่อม”
IP ผนึก มอ. ลุย R&D “กระท่อม” ต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์สุขภาพครบวงจรมาตรฐานสากล
IP ลงนาม MOU ม.สงขลานครินทร์ ลุยวิจัยและพัฒนา “กระท่อม” ต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์สุขภาพครบวงจร “เวชภัณฑ์-โภชนบำบัด-อาหารเสริม-เครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ” มาตรฐานระดับสากล ขยายฐานการเติบโตแข็งแกร่งดันรายได้แตะ 2,500 ล้านบาทภายในปี 2568 ตามเป้า ขานรับยุทธศาสตร์ชาติผลักดันประเทศไทยก้าวสู่ศูนย์กลางความเป็นเลิศด้านการแพทย์และสุขภาพ
ดร.ตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) หรือ IP ผู้ดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนา คิดค้น และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและนวัตกรรมความงามสำหรับคน และผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยงและปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทฯได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) โดยมี ผศ.ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นผู้ลงนาม เพื่อร่วมวิจัยและพัฒนากระท่อม และสารสกัดจากกระท่อม เป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพครบวงจรมาตรฐานระดับสากล อาทิ เวชภัณฑ์, โภชนบำบัด, อาหารเสริม และเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ เป็นต้น ขยายฐานต่อจิ๊กซอว์การเติบโตแข็งแกร่งผลักดันรายได้แตะระดับ 2,500 ล้านบาท ภายในปี 2568 ตามแผนที่วางไว้
“โครงการความร่วมมือครั้งนี้ ส่วนหนึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุน งานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมจาก หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ซึ่งนับเป็นอีกก้าวย่างสำคัญของการเดินหน้าสู่บริษัทชั้นนำในการวิจัยพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์สุขภาพแบบครบวงจรมาตรฐานโลก ผลักดันแบรนด์ INTERPHARMA ให้เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค ยกระดับการเติบโตสู่บริษัทชั้นนำระดับสากลรายได้เติบโตแตะ 2,500 ล้านบาทในปี 2568 ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้” ดร.ตฤณวรรธ์ กล่าว
ด้าน ผศ.ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า ภายใต้วิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ในการเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อนวัตกรรมและสังคม เป็นกลไกหลักในการพัฒนางานวิจัยภาคใต้และประเทศ ซึ่งความร่วมมือกับบมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา ครั้งนี้ นับเป็นโอกาสที่ดีในการผลักดันงานวิชาการและงานวิจัย สู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ เห็นผลเป็นรูปธรรมชัดเจน มีประโยชน์ในวงกว้าง ผลักดันให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายด้านการเกษตรการแพทย์ โดยใช้เทคโนโลยีทางชีววิทยาศาสตร์ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ที่ต้องการให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางความเป็นเลิศด้านการแพทย์และสุขภาพ
“นับเป็นโอกาสอันดีและยินดีที่บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา ได้ร่วมสนับสนุนงานด้านวิชาการและงานวิจัย รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่เชิงพาณิชย์ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ได้จริงและเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนมาก ภายใต้ข้อตกลงร่วมการใน MOU ฉบับนี้” ผศ.ดร.นิวัติ กล่าว