ธพว.สั่งพักชำระหนี้เงินต้นยาวถึงสิ้นปี 64
SME D Bank เดินหน้าช่วยเหลือเอสเอ็มอีต่อเนื่องตามนโยบายรัฐ สั่งขยายเวลาพักชำระหนี้เงินต้นยาวถึงสิ้นปี 64 หวังมุ่งลดภาระทางการเงิน รักษาการจ้างงาน ควบคู่เติมทุนใหม่ เสริมสภาพคล่อง ประคองรอโควิด-19 คลี่คลาย ดันธุรกิจเอสเอ็มอีกลับมายืนและเดินได้อีกครั้ง
น.ส.นารถนารี รัฐปัตย์ กก.ผจก. ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bankกล่าวว่า ธนาคารฯดำเนินการเชิงรุกช่วยเหลือลูกค้าด้านลดภาระชำระหนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนกลางปีที่แล้ว โดนจัดส่งเจ้าหน้าที่สาขา ติดต่อสอบถาม และตรวจเยี่ยมกิจการลูกค้าทุกกลุ่มทั่วประเทศ ทั้งรายที่ยังมีศักยภาพชำระหนี้ได้ตามปกติ และรายที่ได้รับผลกระทบแล้ว เพื่อแนะนำและพาเข้าสู่มาตรการช่วยเหลือได้เหมาะสม รวมถึง นำเทคโนโลยีการรับส่งเอกสารผ่านออนไลน์มาใช้ ช่วยลดการเดินทาง สร้างความสะดวกปลอดภัยแก่ลูกค้าและพนักงาน
โดยตั้งแต่หลังครบมาตรการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยอัตโนมัติ 6 เดือน เมื่อปลายปี 2563 ธนาคารฯได้ให้สิทธิลูกค้า พักชำระหนี้เงินต้น ได้อีก 6 เดือน หลังจากนั้น เมื่อเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ เมื่อต้นปี 2564 จึงได้ขยายสิทธิขยายระยะพักชำระหนี้เงินต้นให้อีก 6 เดือน โดยนับเฉพาะช่วงเดือนมกราคม 2564 ถึงสิ้นเดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมา ช่วยเหลือลูกค้าไปแล้วประมาณ 10,000 ราย วงเงินประมาณ 17,000 ล้านบาท เมื่อรวมตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ช่วยเหลือลูกค้าไปแล้วประมาณ 27,000 ราย วงเงินประมาณ 44,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อเกิดการแพร่ระบาดขึ้นอีกเป็นระลอกที่ 3 ธนาคารฯ ตระหนักดีถึงความเดือดร้อนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่กำลังได้รับ รวมถึงเป็นไป ตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการด้านการเงินเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่มอบหมายให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจขยายระยะเวลาพักชำระเงินต้นให้แก่ลูกหนี้ตามความสมัครใจ ธนาคารฯจึงมีมาตรการช่วยเหลือต่อเนื่อง โดยให้สิทธิลูกค้า สามารถแจ้งความประสงค์ขอพักชำระหนี้เงินต้นได้อีกไปจนถึง 31 ธันวาคม 2564
โดยพิจารณาแนวทางช่วยเหลือตามผลกระทบของลูกค้าแต่ละราย ซึ่งจะช่วยลดภาระทางการเงินให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถรักษาการจ้างงาน และประคับประคองธุรกิจให้ผ่านปี 2564 ไปได้ เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลาย กิจการพร้อมกลับมาฟื้นตัวในอนาคต ขณะที่ ภาระหนี้ที่พักชำระไว้ จะนำยอดดังกล่าว ไปรวมให้ชำระในช่วงท้ายของสัญญา และในช่วงที่ผ่อนปรนนี้ ไม่ถือว่าเสียประวัติข้อมูลเครดิต
นอกจากนี้ ธนาคารฯได้จัดเตรียมสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษไว้รองรับเอสเอ็มอีทุกกลุ่ม ทั้งลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่ เพื่อใช้เสริมสภาพคล่อง ไฮไลท์สำคัญ เช่น “สินเชื่อรายเล็ก Extra Cash” กู้ได้ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล วงเงินกู้สูงสุด 3 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 3% ต่อปีใน 2 ปีแรก ระยะผ่อนชำระนานสูงสุด 5 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน ที่สำคัญ! ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน กำหนดระยะเวลายื่นกู้ถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2564 นี้
และ “สินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน” อัตราดอกเบี้ย นิติบุคคล 2.875% ต่อปี นาน 3 ปีแรก วงเงินกู้สูงสุด 5 ล้านบาท และบุคคลธรรมดา 4.875%ต่อปี นาน 3 ปีแรก วงเงินกู้สูงสุด 2 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุด 7 ปี เป็นต้น
สำหรับ ลูกค้าที่ต้องการเข้าสู่มาตรการพักชำระหนี้เงินต้น และแจ้งความประสงค์ขอสินเชื่อเสริมสภาพคล่อง สามารถติดต่อได้ที่สาขาของ SME D Bank ทั่วประเทศ รวมถึง เพื่อความสะดวก และลดความเสี่ยงจากการเดินทาง สามารถแจ้งผ่านช่องทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เช่น เว็บไซต์ของธนาคาร https://www.smebank.co.th/ , แอปพลิเคชัน “SME D Bank” ดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android , LINE Official Account: SME Development Bank เป็นต้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357.