สรรพากรหนุนบริจาคซื้อวัคซีน หักภาษีเต็มจำนวน
สรรพากรเด้งรับมติ ครม. พร้อมหั่นรายได้ภาษี หนุนเอกชนบริจาคให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติ จัดซื้อยาต้านไวรัสโควิดฯช่วยคนไทยพ้นวิกฤต ย้ำ! ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล หักได้เต็มจำนวน แต่ต้องไม่เกินเงื่อนไขที่กำหนดไว้ แล้วต้องผ่านระบบe – Donation เท่านั้น ให้ย้อนหลัง 1 ม.ค. ถึง 31 ธ.ค.64
ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวภายหลัง คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบหลักการมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนให้ภาคเอกชนร่วมบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่สถาบันวัคซีนแห่งชาติ สำหรับจัดหาวัคซีนที่มีคุณภาพและมีปริมาณเพียงพอ เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคให้แก่ประชาชน ทั้งในสถานการณ์ปกติ และในสถานการณ์ฉุกเฉิน นำไปสู่ความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศ ว่า…
กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพากรมีความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของการสนับสนุนการวิจัย การพัฒนา การผลิต และการกระจายวัคซีนที่มีคุณภาพและมีปริมาณเพียงพอ เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคให้แก่ประชาชนในประเทศ จึงได้เสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคเพื่อจัดหาวัคซีน) เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการสนับสนุนให้ภาคเอกชนร่วมบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่แสวงหากำไรและมีภารกิจในการบริหารจัดการให้ประเทศมีความมั่นคงด้านวัคซีนอย่างยั่งยืน โดยมีหลักการดังนี้
1. บุคคลธรรมดาที่บริจาคเงินให้แก่สถาบันวัคซีนแห่งชาติสามารถนำมาหักเป็นค่าลดหย่อนได้เท่าจำนวนที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับเงินบริจาคตามมาตรา 47 (7) แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละสิบของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักค่าลดหย่อนอื่นๆ แล้ว
2. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่บริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่สถาบันวัคซีนแห่งชาติสามารถนำมาหักเป็นรายจ่ายได้เท่าจำนวนที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อ
การสาธารณประโยชน์ ตามมาตรา 65 ตรี (3) (ข) แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละสองของกำไรสุทธิ
ทั้งนี้ ผู้ที่บริจาคให้แก่สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ตาม 1 และ 2 จะต้องบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ ( e – Donation) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566
และ 3. ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่บริจาคทรัพย์สินให้แก่สถาบันวัคซีนแห่งชาติ
“กรมสรรพากรหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามาตรการภาษีข้างต้นจะช่วยจูงใจให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการวิจัย การพัฒนา การผลิต และการกระจายวัคซีนที่มีคุณภาพและมีปริมาณเพียงพอ ทั้งในสถานการณ์ปกติและในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้แก่ประชาชน อันจะนำไปสู่ความมั่นคงของประเทศชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ณ เวลานี้ ที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือร่วมใจในการฟันฝ่าวิกฤติสถานการณ์โควิด-19 นี้ไปให้ได้ เพื่อคนไทยทุกคน” อธิบดีกรมสรรพากร ย้ำ
ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศ หรือศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center)โทร. 1161.