คลังไม่เก็บ30บาท “บัตรทอง”
“อภิศักดิ์” ชง ครม.ยกเลิกจ่ายเงิน 30 บาท โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค หรือ บัตรทอง อย่างเป็นทางการ กรณี ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใช้รักษาตัวในโรงพยาบาล พร้อมนำร่องคืนภาษีแวตแก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการ 3 เดือน
“กระทรวงการคลังเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบมาตรการเพิ่มเติมในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิแห่งรัฐจำนวน 11.4 ล้านคน สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลผ่านโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค หรือบัตร ทอง โดยไม่ต้องจ่ายเงิน ภายใน 2-3 สัปดาห์ หลังจากนี้ กระทรวงการคลังจะประสานกับกระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาลทุกแห่งถึงแนวทางการดำเนินงานตามมาตรการดังกล่าว ส่วนเงินชดเชยนั้นเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินจากกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก เพราะคาดว่าจะใช้เงินในการดำเนินมาตรการไม่มากนัก” นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวและกล่าวว่า
“ในเบื้องต้นคาดว่า ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ จะเริ่มรับบริการตามโครงการ 30 บาทโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายได้ตั้งแต่เดือนก.ย.นี้เป็นต้นไป โดยมาตรการนี้จะเป็นมาตรการถาวร ไม่ใช่มาตรการชั่วคราว ซึ่งหลักคิดของมาตรการคือ ผู้มีรายได้น้อยไม่ควรมีภาระค่าใช้จ่ายในเรื่องนี้” รมว.คลัง กล่าว
นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า ยืนยันว่า บัตรสวัสดิการฯ จะเป็นเครื่องยืนยันตัวตนที่จะได้รับการบริการจากโรงพยาบาลภายใต้สิทธิ์ของบัตรทอง ซึ่งการรักษาทุกอย่างจะดำเนินการตามปกติ
ส่วนเรื่องการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (แวต) กระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) 7% ให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ และการวางระบบสารสนเทศ (ไอที) เพื่อใช้ในการเก็บข้อมูลการใช้จ่ายของกรมสรรพากร โดยเบื้องต้นตั้งเป้าหมายว่าจะเริ่มนำร่องโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.-ธ.ค.2561 รวมระยะเวลา 3 เดือน ส่วนเพดานของจำนวนเงินที่จะคืนภาษีแวต ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน คงต้องรอให้การวางระบบไอทีต่าง ๆ เรียบร้อยก่อน
สำหรับการคืนภาษีแวตนั้น จะคืนให้ทั้งในส่วนเงินช่วยเหลือที่รัฐจ่ายให้ผ่านบัตรสวัสดิการฯ ทุกเดือน และในส่วนที่ผู้มีรายได้น้อยได้เติมเงินใส่เข้าไปในบัตรสวัสดิการฯ เองเพื่อนำไปใช้จ่ายในการซื้อสินค้าต่างๆ ส่วนวิธีการคืนภาษีแวตนั้น จะคืนเงินเข้าไปในบัตรสวัสดิการฯ โดยผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ สามารถนำเงินในส่วนที่ได้รับคืนจากภาษีแวตไปซื้อสินค้าต่างๆ ได้หรือสามารถกดเป็นเงินสดออกมาใช้จ่ายได้ด้วย ขณะที่กระบวนการคืนภาษีนั้นยังอยู่ระหว่างพิจารณาว่า จะคืนให้ทุกเดือนตลอดระยะเวลา 3 เดือน หรือจะคืนครั้งเดียวหลังสิ้นสุดโครงการ
“ในหลักการเบื้องต้น ผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการฯ จะต้องมีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปีดังนั้นการคืนเงินภาษีแวตจึงจะคิดเป็นจำนวนเท่ากับภาษีแวตที่เสียผ่านบัตรสวัสดิการฯ ไม่ควรเกิน 7,000 บาทต่อราย เพราะหากการขอคืนภาษีแวตสูงกว่าจำนวนดังกล่าวถือว่า บุคคลนั้นไม่ได้เป็นผู้มีรายได้น้อยแล้ว”
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงการคลังว่า ปัจจุบันสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ไม่ได้เรียกเก็บเงิน 30 บาทจากผู้ถือบัตรทองแล้ว แต่หากผู้ถือบัตรทองจะสมัครใจจะจ่ายเงิน 30 บาทก็ได้โดย สปสช.จะเป็นผู้รับชอบภาระงบประมาณที่เกิดขึ้น ดังนั้น หากกระทรวงการคลังจะมาร่วมรับผิดชอบก็สามารถดำเนินการได้.