ส่งออกญี่ปุ่นเดือนก.ค.พุ่ง
ตัวเลขส่งออกของญี่ปุ่นเติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ในเดือนก.ค.จากยอดส่งออกไปสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นและได้แรงหนุนจากเงินเยนที่อ่อนค่าลง เป็นสัญญาณว่าดีมานด์ต่างประเทศกำลังฟื้นตัวจากที่เคยซบเซาในไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพ
โดยข้อมูลจากธนาคารกลางญี่ปุ่นชี้ให้เห็นถึงสัญญาณที่เพิ่มขึ้นของความแข็งแกร่งของการบริโภคภาคเอกชนที่เพิ่มโมเมนตัมให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่มีการส่งออกเป็นตัวนำ
ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 7 เดือนติดต่อกันจากดีมานด์ของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและกล้องดิจิทัลจากจีน ชี้ให้เห็นถึงความแข็งแรงของการบริโภคในประเทศซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในไตรมาส 2
“ การส่งออกไม่เพียงแข็งแรงในแง่ปริมาณเท่านั้น แต่ยังค่อยๆฟื้นตัวด้วย ส่วนตัวเลขนำเข้า เน้นให้เห็นถึงความแข็งแรงของดีมานด์ในประเทศ ดีมานด์ในประเทศกำลังมีโมนตัมที่ดีและมีแนวโน้มจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นเติบโต ” ทาเคชิ มินามิ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่สถาบันวิจัยโนรินชุคินอธิบาย
โดยยอดส่งออกไปสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 11.5% ในเดือนก.ค.เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นการเติบโตต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 6 ขณะที่การส่งออกไปเอเชียเพิ่มขึ้น 14.8% อ้างอิงจากข้อมูล
ส่งผลทำให้ญี่ปุ่นเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 9.1% เป็น 647,000 ล้านเยน ( 5,880 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ทั้งนี้ การที่ญี่ปุ่นได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯ เป็นเป้าหมายที่ถูกวิจารณ์จากคณะทำงานบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และมีการเรียกร้องให้ญี่ปุ่นลดจำนวนการเกินดุลการค้าภายใต้นโยบายกีดกันทางการค้า หรือที่เรียกว่า ‘อเมริกาต้องมาก่อน’
เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ข้อมูลจากกระทรวงการคลังชี้ว่า ปริมาณส่งออกโดยรวมเติบโตเพิ่มขึ้น 13.4% ในเดือนก.ค.เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งค่อนข้างใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้คือ 13.6%
โดยการส่งออกที่เพิ่มขึ้นได้แรงหนุนจากการส่งรถยนต์ไปสหรัฐฯ และดีมานด์จากจีนสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
แต่ยอดส่งออกยังคงเป็นตัวเลขที่ถ่อมตัวในแง่ปริมาณคือ 2.6% ชี้ให้เห็นถึงมูลค่าการส่งออกที่สูงขึ้นจากเงินเยนที่อ่อนค่าลงในช่วงเดือนก.ค.
โดยการส่งออกไปจีนขยายตัวเติบโตขึ้น 17.6% ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 9
การนำเข้าโดยรวมเพิ่มขึ้น 16.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งค่อนข้างเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเติบโต 17.0% โดยเมื่อเดือนมิ.ย. ตัวเลขอยู่ที่ 15.5%
ทั้งนี้ เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัวในอัตราที่สูงที่สุดในรอบมากกว่า 2 ปีในไตรมาส 2 จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและบริษัทที่เพิ่มขึ้น นับเป็นการฟื้นตัวของดีมานด์ในประเทศที่รอคอยกันมานาน
ดีมานด์ภายนอกเชิงลบ เฉือนตัวเลขเติบโตในไตรมาสนี้เนื่องจากยอดส่งออกสินค้าไอทีไปเอเชียชะลอตัวลง โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการส่งออกจะมีเสถียรภาพในไตรมาสหน้า.