สหรัฐฯคว่ำบาตรรัสเซีย อ้างถูกโจมตีไซเบอร์
เมื่อวันที่ 15 เม.ย. สหรัฐฯมีมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย เพื่อเป็นบทลงโทษที่รัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯในปีที่แล้ว , โจมตีทางไซเบอร์, รังแกยูเครน และอีกหลายอย่างที่ถือเป็นการกระทำที่ชั่วร้าย
โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศแบล็กลิสต์บริษัทรัสเซีย ขับนักการทูตรัสเซียกลับประเทศ และห้ามธนาคารสหรัฐฯซื้อพันธบัตรรัฐบาลจากธนาคารกลาง , กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ และกระทวงการคลังของรัสเซีย ทางสหรัฐฯยังเตือนรัสเซียว่าจะมีมาตรการลงโทษมากกว่านี้ แม้สหรัฐฯระบุว่าไม่ต้องการยกระดับความรุนแรงก็ตาม
รัสเซียแสดงท่าทีไม่พอใจ โดยระบุว่า เรื่องอันตรายนี้ทำให้อุณหภูมิระหว่างสองประเทศเดือด และเรียกร้องถึงการประชุมระหว่างผู้นำสหรัฐฯกับรัสเซีย โดยรัสเซียยังได้เรียกทูตสหรัฐฯเข้าพบเพื่อตำหนิทางการทูตด้วย
รัสเซียปฏิเสธการกล่าวหาทั้งหมดจากสหรัฐฯ ทั้งการแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐฯ , การโจมตีทางไซเบอร์ที่ใช้บริษัท SolarWinds ของสหรัฐฯเพื่อแทรกซึมเข้าโครงข่ายรัฐบาลสหรัฐฯ และการวางยาพิษอเล็กซี นาวัลนี ฝ่ายค้านที่วิจารณ์รัฐบาลรัสเซีย
เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ประธานาธิบดีโจ ไบเดนพูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียจากหลายประเด็นความกังวลเหล่านี้ รวมถึงการสร้างกองกำลังรัสเซียในไครเมีย และตามแนวชายแดนที่ติดกับยูเครน และเสนอให้มีการประชุมร่วมกัน
โดยไบเดนลงนามในคำสั่งพิเศษประธานาธิบดีมอบอำนาจให้รัฐบาลสหรัฐฯคว่ำบาตรพื้นที่เศรษฐกิจรัสเซีย และใช้เพื่อจำกัดศักยภาพของรัสเซียในประเด็นหนี้ภาครัฐเพื่อลงโทษรัสเซียที่แทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐฯในปีที่แล้ว
ไบเดนห้ามสถาบันการเงินสหรัฐฯ เข้าไปมีส่วนในตลาดแรกของการซื้อขายพันธบัตรรัสเซียที่เป็นสกุลเงินรูเบิลตั้งแต่ 14 มิ.ย.เป็นต้นไป ทั้งนี้ ธนาคารสหรัฐฯถูกห้ามไม่ให้เข้าไปมีส่วนในตลาดแรกการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลที่ไม่ใช่สกุลเงินรูเบิลตั้งแต่ปี 2562
“สหรัฐฯต้องการความสัมพันธ์กับรัสเซียที่มีเสถียรภาพและคาดการณ์ได้ เราไม่คิดว่าเราต้องการแนวทางเชิงลบ” ทำเนียบขาวระบุในแถลงการณ์
กระทรวงการคลังสหรัฐฯยังได้แบล็คลิสต์ 32 บริษัทและบุคคล ซึ่งเกี่ยวข้องกับการแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯที่สั่งการโดยรัฐบาลรัสเซีย
ทางกระทรวงการคลังยังได้คว่ำบาตร 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเข้ายึดและกดดันในไครเมีย ซึ่งรัสเซียแยกออกจากยูเครนในปี 2557
“เราขอย้ำเตือนสหรัฐฯถึงผลที่ตามมาของมาตรการที่เป็นศัตรู ซึ่งจะเพิ่มโอกาสให้มีการเผชิญหน้ากันระหว่างสองประเทศ” มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซียกล่าวในการแถลงข่าว
โดยเธอระบุว่า แม้ไบเดนจะพูดคุยกับปูตินเกี่ยวกับความสนใจที่จะทำให้ความสัมพันธ์เป็นปกติ แต่การกระทำของรัฐบาลสหรัฐฯกลับตรงกันข้าม
ทำเนียบขาวระบุว่า ได้ขับ 10 นักการทูตรัสเซียออกจากกรุงวอชิงตัน รวมถึงผู้แทนหน่วยข่าวกรองรัสเซีย และเป็นครั้งแรกที่มีการเอ่ยชื่อสำนักข่าวกรองรัสเซียว่าอยู่เบื้องหลังการแฮกข้อมูลบริษัท SolarWinds
เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงของไบเดนระบุว่ามาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯเป็น “มาตรการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องผลประโยชน์สหรัฐฯ ในการตอบโต้การกระทำที่เป็นอันตรายของรัสเซีย”
มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ นี้ส่งผลให้ค่าเงินรูเบิลของรัสเซียอ่อนค่าลงกว่า 2% ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ และอ่อนค่าลงต่ำที่สุดในรอบกว่า 5 เดือนต่อยูโร ก่อนที่จะแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย