ญี่ปุ่นนับถอยหลังสู่โอลิมปิก แม้มีปัญหาโควิด
โตเกียว – บรรดาอาสาสมัครในการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิกถามทางการว่าจะมีการป้องกันโควิด-19 อย่างไรเมื่อนักกีฬาต่างชาติหลั่งไหลมาที่ญี่ปุ่นเพื่อแข่งกีฬา และในญี่ปุ่นมีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ คำตอบที่ได้คือ พวกเขาทุกคนจะได้รับแจกเจลล้างมือ 1 ขวดและหน้ากากอนามัย 2 ชิ้น
“ ไม่มีการพูดถึงวัคซีน ไม่แม้แต่จะพูดถึงการตรวจหาเชื้อไวรัส” บาร์บารา โฮลธัส อาสาสมัครชาวเยอรมัน ซึ่งเป็นผอ.สถาบันเยอรมนีเพื่อการศึกษาญี่ปุ่น ประจำม.โซเฟียในกรุงโตเกียวระบุ
นับถอยหลัง 100 วันถึงพิธีเปิดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก ซึ่งเลื่อนมาจากปีที่แล้วเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 คำถามสำคัญที่ยังคาใจคือทางการญี่ปุ่นจะทำอย่างไรเพื่อช่วยให้บรรดานักกีฬา อาสาสมัคร เจ้าหน้าที่และชาวญี่ปุ่นปลอดภัยจากโควิด-19
ความกังวลลุกลามขยายตัวเนื่องจากญี่ปุ่นอยู่ในสถานการณ์การระบาดในระลอก 4 โดยประเทศมีตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมจากโควิด-19 สูงเกิน 500,000 รายในวันที่ 10 เม.ย. และบางจังหวัดประกาศมาตรการคุมเข้มเนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยฮิเดกิ โอกะ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยแพทย์ไซตามะระบุว่า ญี่ปุ่นอาจไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดในระลอกล่าสุดได้ก่อนที่จะเริ่มการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิกในวันที่ 23 ก.ค.นี้
ขณะที่นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ สึงะย้ำเมื่อวันที่ 12 เม.ย.ว่า เขาจะจัดหาวัคซีนได้ 100 ล้านโดสภายในสิ้นเดือนมิ.ย.
จนถึงตอนนี้ ญี่ปุ่นฉีดวัคซีนไปประมาณ 1.1 ล้านคนจากประชากรทั้งหมด 126 ล้านคน น้อยกว่า 1% ของจำนวนประชากร และมีเพียง 0.4% ที่ได้รับวัคซีนครบสองโดสแล้ว
อาสาสมัครโฮลธัสระบุว่า “ การได้เข้ามาร่วมสนับสนุนการแข่งขันโอลิมปิกถือเป็นโอกาสสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิต แต่ตอนนี้กลายเป็นประสบการณ์ที่อันตราย”
คณะผู้จัดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิกระบุในแถลงการณ์ว่า มีการเตรียมพร้อม “เพื่อให้การแข่งขันมีความปลอดภัยและมั่นคง ไม่ว่าจะมีวัคซีน หรือไม่มีวัคซีน”
“ ในอีกแง่หนึ่ง เราหวังว่าจะมีการกระจายวัคซีนอย่างเหมาะสมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้ผู้ติดเชื้อลดลงในภาพรวม”
ที่ผ่านมา หน่วยงานที่กำกับดูแลในญี่ปุ่นล่าช้าในการอนุมัติขึ้นทะเบียนวัคซีนต้านโควิด-19 เมื่อเทียบกับรัฐบาลประเทศอื่น โดยใช้เวลากว่า 2 เดือนในการอนุมัติวัคซีนของบ.ไฟเซอร์ – ไบออนเทค ญี่ปุ่นเริ่มฉีดวัคซีนในเดือนก.พ.และประชากรผู้สูงวัยเพิ่งเริ่มรับวัคซีนในวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา จากรายงานข่าวของเกียวโดนิวส์
ทำให้ญี่ปุ่นถูกทิ้งห่างจากประเทศอื่น เช่น จีน ซึ่งฉีดวัคซีนไปแล้ว 171 ล้านโดส และอินเดียฉีดวัคซีนไปแล้วประมาณ 108 ล้านโดส
“ ทางการบอกว่าผู้สูงวัยจะฉีดวัคซีนได้หมดภายในเดือนมิ.ย. แต่ในความเป็นจริง แม้แต่แพทย์ที่รักษาโควิดก็ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเลย” โอกะจากมหาวิทยาลัยแพทย์ไซตามะกล่าว โดยเสริมว่าเขาไม่เชื่อว่าญี่ปุ่นจะฉีดวัคซีนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ขณะที่นักกีฬาทุกคนต้องมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบก่อนเดินทางมาญี่ปุ่น แต่พวกเขาต้องติดต่อกับอาสาสมัครหลายหมื่นคนที่ไม่ได้ผ่านการตรวจหาไวรัส ซึ่งต้องเดินทางระหว่างสถานที่แข่งขันและบ้าน
“ จะมีคนมาอยู่รวมกันจำนวนมากจากทั่วโลก จะเกิดอะไรขึ้นหากมีคลัสเตอร์ผุดขึ้นในการแข่งขันโอลิมปิก ถ้าไวรัสมาจากเราคนใดคนหนึ่งล่ะ” โฮลธัสกล่าว
คณะกรรมการจัดงานระบุในแถลงการณ์ว่า “ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะดีขึ้นก่อนโอลิมปิก เราจะทำงานใกล้ชิดกับทุกฝ่าย เพื่อให้การแข่งขันมีความปลอดภัยในฤดูร้อนนี้”
อาสาสมัครอีกคนคือฟิลเบิร์ต โอโนะระบุว่า เขาเชื่อมั่นในรัฐบาลและ IOC ว่าจะรักษาความปลอดภัยให้นักกีฬาและอาสาสมัครได้ แต่โฮลธัสไม่เชื่อว่าการแข่งขันจะเดินหน้าได้จากสถานะการเตรียมพร้อมในปัจจุบัน ซึ่งมีโอกาสจะเป็น ‘ซูเปอร์สเปรดเดอร์อีเวนต์’ ได้
“ เราอาจคิดไม่ถึงว่าจะแย่สักแค่ไหน แต่จะมีความเสียหายเกิดขึ้นเมื่อมีการแข่งขัน ไม่มีโอกาสหวนกลับเมื่อทุกคนเข้าร่วมในการแข่งขัน”