‘แมร์เคิล’ ต่อล็อกดาวน์เยอรมนีถึง 18 เม.ย.
เบอร์ลิน – เมื่อวันที่ 23 มี.ค. นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลระบุว่า เยอรมนีขยายมาตรการล็อกดาวน์ออกไปจนถึงวันที่ 18 เม.ย. โดยขอร้องให้ประชาชนอยู่บ้านนาน 5 วันในช่วงวันหยุดเทศกาลอีสเตอร์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระลอกสาม
ในการประชุมที่ยาวนานจนถึงช่วงกลางคืน นายกฯแมร์เคิลผลักดันให้ผู้นำรัฐทั้ง 16 รัฐของเยอรมนีมีจุดยืนที่เข้มงวดขึ้นเพื่อสู้กับโควิด-19 เป็นการกลับลำแผนการเดิมที่จะเปิดเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไปที่มีการตกลงกันก่อนหน้านี้ หลังจากมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก
“ เรายังอยู่ในช่วงการระบาด ไวรัสกลายพันธ์ในสหราชอาณาจักรทำให้เกิดการติดเชื้อมากขึ้น” แมร์เคิลระบุในการประชุม
“ โดยพื้นฐานแล้ว เรากำลังเผชิญกับไวรัสกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่ที่แตกต่างจากเดิม ทำให้เสียชีวิตมากขึ้น ติดเชื้อมากขึ้น และนานขึ้น”
เยอรมนีเริ่มผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มอย่างระมัดระวังตั้งแต่ช่วงต้นเดือน แต่ตัวเลขการติดเชื้อของไวรัสสายพันธุ์ใหม่พุ่งขึ้นอีก ก่อให้เกิดความกังวลว่าโรงพยาบาลอาจจะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจนเต็ม หากไม่มีการควบคุมมากขึ้น
ในวันที่ 22 มี.ค. อัตราการติดเชื้อต่อประชากร 100,000 คนอยู่ที่ 107 รายตลอดสัปดาห์ และมีผู้ป่วยห้องไอซียูกว่า 3,000 ราย
ในวันที่ 22 มี.ค. สหราชอาณาจักรเรียกร้องให้สหภาพยุโรปอนุญาตให้มีการจัดส่งวัคซีนโควิด-19 ที่สั่งไว้ เนื่องจากมีความตึงเครียดเกี่ยวกับคำสั่งห้ามส่งออกกับวัคซีนที่ผลิตในอียู และอียูมีการกล่าวหาผู้พัฒนาวัคซีนคือแอสตราเซเนกา โดยผู้นำอียูมีกำหนดจะประชุมเรื่องคำสั่งห้ามส่งออกวัคซีนในวันที่ 25 มี.ค.
“ เรามีปัญหา อย่างที่ทราบกันคือวัคซีนของแอสตราเซเนกา” แมร์เคิลกล่าว โดยเสริมว่าเธอสนับสนุนคณะกรรมาธิการของอียู “ เราจะตัดสินใจด้วยความรับผิดชอบ”
ช่วงวันหยุด 5 วันตั้งแต่ 1 เม.ย. ประชาชนชาวเยอรมันต้องอยู่บ้านและลดการติดต่อสัมผัสกันให้มากที่สุด แต่มติจากการประชุมช่วงกลางคืนไม่ได้ระบุให้ปิดร้านทั้งหมด รวมทั้งซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งแมร์เคิลมีการเรียกร้องก่อนหน้านี้
มีการห้ามการรวมตัวกันของครอบครัวใหญ่ในช่วงวันหยุด คือมากกว่าสองครัวเรือน โดยจำกัดจำนวนอยู่ที่ 5 คน รัฐบาลจะขอให้โบสถ์จัดพิธีอีสเตอร์ทางออนไลน์เพื่อหลีกเลี่ยงการชุมนุมกัน
นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า การขยายเวลามาตรการล็อกดาวน์ของเยอรมนีจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นฟูได้ล่าช้ากว่าเดิมจากที่หวังไว้คือจากฤดูใบไม้ผลิไปจนต้นฤดูร้อน
การประชุมใช้เวลายาวนานหลายชั่วโมง เนื่องจากแมร์เคิลและผู้นำรัฐถกเถียงกันในประเด็นว่าควร หรือไม่ควรผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มเรื่องการเดินทางในประเทศช่วงวันหยุดเทศกาลอีสเตอร์
ชาวเยอรมันสามารถเดินทางได้อย่างเสรี แม้แต่ในช่วงโควิด-19 แต่โรงแรมและรีสอร์ตในประเทศไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเช่าห้องได้ ทำให้การเดินทางไปต่างประเทศเป็นทางเลือกเดียวสำหรับผู้ที่หมดหวังจะท่องเที่ยวช่วงวันหยุด
“เราแนะนำไม่ให้เดินทางต่างประเทศ” แมร์เคิลกล่าว
ปัจจุบัน สายการบินต้องรับผิดชอบที่จะทำให้แน่ใจว่า นักเดินทางและพนักงานทุกคนได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนเดินทางออกจากเยอรมนี โดยไม่ขึ้นกับอัตราการติดเชื้อในประเทศ
แต่แมร์เคิลและผู้นำรัฐเห็นพ้องให้มีการหยุดมาตรการกักตัวสำหรับนักเดินทางที่กลับเข้าประเทศ ถือเป็นการผ่อนคลายให้สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น มอลลอร์กาในสเปน ที่เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับธุรกิจท่องเที่ยวช่วงวันหยุดอีสเตอร์
แมร์เคิลระบุว่าเยอรมนีกำลังเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชน ก่อนที่จะถูกไวรัสสายพันธุ์ใหม่จู่โจมจนสู้ไม่ไหว จนถึงตอนนี้ มีชาวเยอรมันประมาณ 9% ที่ได้รับวัคซีนโดสแรกแล้ว แต่คาดการณ์ว่าอัตราการฉีดวัคซีนจะเร็วขึ้นในเดือนหน้า
“หลายสิ่งหลายอย่างหนักหนากว่าที่เราคาดการณ์ไว้ แต่ชัดเจนว่ามีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์” แมร์เคิลกล่าว