ส่อวุ่น “ไพบูลย์” ชี้ แก้ รธน.ต้องเริ่มใหม่ ที่แล้วมาโมฆะ
ไพบูลย์ นิติตะวัน ชี้ คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่แล้วมาต้องเป็นโมฆะ
ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีการแก้รัฐธรรมนูญโดยรัฐสภาเมื่อวันที่ 11 มี.ค. ก่อให้เกิดการตีความเป็นวงกว้าง โดยในส่วนของฝ่ายค้าน เห็นว่าสามารถเดินหน้าได้ตามกระบวนการที่ทำอยู่ได้ ขณะที่บางฝ่ายเห็นว่า กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญ จะต้องเริ่มใหม่ ทั้งหมด เพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การจะทำรัฐธรรมนูญใหม่ได้นั้น ต้องทำประชามติเสียงก่อน
วันที่ 12 มี.ค. นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีความชัดเจนว่า ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะต้องให้ประชาชนลงประชามติเสียก่อน ด้วยการถามว่าประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ขณะเดียวกันศาลรัฐธรรมนูญยังวินิจฉัยว่า รัฐสภามีหน้าที่และอำนาจในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ดังนั้น การที่รัฐให้อำนาจสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น จึงขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ จะต้องทำโดยรัฐสภาเท่านั้น เนื่องจากเป็นหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา
นายไพบูลย์ กล่าวว่า กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ทำอยู่ขณะนี้ เมื่อยังไม่มีการออกเสียงประชามติ ไม่มีการถามประชาชนว่าประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ จึงเท่ากับขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้น กระบวนการที่แล้วมาจึงต้องตกไป และหากจะจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก็จะต้องเริ่มกระบวนการใหม่ทั้งหมด โดยการทำประชามติก่อน และการจะทำประชามติได้นั้น ต้องรอให้ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ประกาศใช้เสียก่อน
สำหรับการเรียกประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันที่ 17 มี.ค.นี้ ที่คาดว่าจะมีการโหวตวาระ 3 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายไพบูลย์ กล่าวว่า คาดว่า ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา จะแจ้งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อที่ประชุม โดยคาดว่าจะมีการอภิปรายว่าจะสามารถโหวตวาระ 3 ได้หรือไม่ ซึ่งอาจจะมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ส่วนตัวเห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นถือว่ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่แล้วมาเป็นอันตกไป ไม่สามารถที่จะพิจารณาต่อได้
“ถ้ามีการโหวตวาระ 3 จริง ผมโหวตไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว หรือไม่ผมก็จะไม่ร่วมด้วย เพราะถ้าร่วมก็เท่ากับขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พรรคพลังประชารัฐก็เชื่อว่าจะเห็นด้วยกับมุมมองของผมที่เป็นฝ่ายกฎหมาย”
นายไพบูลย์ กล่าวว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับจากนี้ไปจะไม่ง่ายแล้ว โดยต้องให้สมาชิกรัฐสภาเป็นผู้จัดทำ ไม่ต่างอะไรกับการแก้ไขเป็นรายมาตรา ยืนยันว่าไม่ใช่การยื้อเวลาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญสามารถทำได้โดยง่าย หากแก้ไขเป็นรายมาตรฐาน