พยาบาล 3 พันคนทั่วโลกดับจากโควิด-19
เมื่อวันที่ 11 มี.ค. องค์กรพยาบาลระดับโลกระบุว่า มีพยาบาลอย่างน้อย 3,000 คนเสียชีวิตจากโควิด-19 โดยยังเตือนถึงปรากฎการณ์สมองไหลจากบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด
เป็นเวลาหนึ่งปีเต็มนับตั้งแต่องค์การอนามัยโลกประกาศให้โควิด-19 เป็นการระบาดใหญ่เป็นครั้งแรก สภาพยาบาลระหว่างประเทศ หรือ ICN ระบุว่า ความเหนื่อยล้าและภาวะเครียดกดดันทำให้พยาบาลนับล้านคนทบทวนพิจารณาที่จะยุติการประกอบอาชีพนี้
และเมื่อสถานการณ์โควิด-19 จบลง จะมีพยาบาลมากประสบการณ์น้อยลงที่ต้องกลับไปรับมือกับงานกองมหึมาที่โรงพยาบาล ซึ่งถูกเลื่อนไปจากวิกฤต
ทั้งนี้ ตัวเลขทั้งหมดของพยาบาลที่เสียชีวิตจากโควิด-19 (ซึ่งรวบรวมจาก 60 ประเทศเท่านั้น) มีแนวโน้มจะต่ำกว่าตัวเลขจริง
โฮเวิร์ด แคตตัน ประธานบริหาร ICN ระบุว่า พยาบาลมีสภาพบอบช้ำจำนวนมากในช่วงที่เกิดโรคระบาด ทำให้เหนื่อยล้าทั้งทางร่างกายและจิตใจ
“ พวกเขามาถึงจุดที่ต้องทุ่มเทให้ทุกอย่างเท่าที่ทำได้” เขากล่าวกับผู้สื่อข่าว
ในรายงาน ICN ระบุว่า โควิด-19 จะส่งผลทำให้มีการย้ายงานจำนวนมาก ตั้งแต่ช่วงต้นของครึ่งปีหลังนี้ โดยเสริมว่า พยาบาลทั่วโลกจะขาดแคลนเกือบ 13 ล้านคน
แต่เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ผ่านไป พยาบาลที่เหน็ดเหนื่อยจะต้องรับมือกับผู้ป่วยที่ล้นโรงพยาบาล ขณะที่ขาดแคลนเพื่อนร่วมอาชีพได้
ICN ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2442 และเป็นองค์กรกลางของสมาคมพยาบาลกว่า 130 ประเทศ เรียกร้องให้รัฐบาลประเทศต่างๆ ฝึกอบรมพยาบาลใหม่เพื่อรับมือกับสถานการณ์การขาดแคลนพยาบาลทั่วโลก โดยยังเรียกร้องให้มีการจ่ายค่าจ้างสูงกว่านี้เพื่อเป็นแรงจูงใจให้พยาบาลทำงานต่อไปเพื่อขับเคลื่อนระบบสาธารณสุขในอนาคต
ทาง WHO ต้องการให้บุคลากรทางการแพทย์ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 ภายใน 100 วันแรกของปี 2564 นี้
ขณะที่แคตตันแสดงความกังวลถึงการกระจายวัคซีนที่ไม่เท่าเทียมกันระหว่างประเทศร่ำรวยและประเทศยากจน
เขาระบุว่า สำหรับพยาบาลที่เผชิญกับความเสี่ยงที่จะติดเชื้อมากขึ้นนั้น “มีสิทธิที่จะได้รับการปกป้องจากงาน” และ “พยาบาลควรได้รับวัคซีนมากกว่าเสียงปรบมือ”
ICN แนะนำให้พยาบาลทุกคนฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เนื่องจาก “ เป็นประเด็นการปกป้องและความปลอดภัยสำหรับคนไข้”