เกาหลีใต้เร่งสอบดับหลังฉีดวัคซีน ‘แอสตราเซเนกา’
เมื่อวันที่ 6 มี.ค. สื่อเกาหลีใต้รายงานว่า ทางการเกาหลีใต้กำลังเร่งดำเนินการสอบสวนสาเหตุกรณีการเสียชีวิต 7 รายหลังได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 ของ บ.แอสตราเซเนกา
โดยสื่อยอนฮัปรายงานว่า หน่วยงานสาธารณสุขจะสืบค้นหาความเชื่อมโยงระหว่างการฉีดวัคซีนและการเสียชีวิตจำนวน 5 รายก่อนหน้านี้ แต่ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชี้ชัดว่ามีความเชื่อมโยงกันโดยตรง และสื่อยังรายงานว่าทุกคนที่เสียชีวิตมีโรคประจำตัว
ในสัปดาห์ก่อน มีประชาชนในเกาหลีใต้กว่า 225,800 รายที่ได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 แล้ว จากข้อมูลของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคเกาหลี
ขณะที่โฆษกทำเนียบระบุว่า ประธานาธิบดีมุนแจอินจะฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาก่อนที่จะไปร่วมประชุมกลุ่มประเทศ G7 ที่สหราชอาณาจักรช่วงฤดูร้อนนี้
จนถึงตอนนี้ มีผู้ที่มีอาการข้างเคียงหลังได้รับวัคซีน 1,578 ราย โดย 1,558 รายมีอาการไม่พึงประสงค์เล็กน้อย
“มีอีก 6 กรณี ที่มีอาการแพ้ชนิดรุนแรง คือแสดงอาการแพ้อย่างหนักหลังฉีดวัคซีน ทำให้กรณีต้องสงสัยเพิ่มเป็น 13 ราย” รายงานระบุ
ในวันที่ 5 มี.ค. เกาหลีใต้รายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 398 ราย ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 381 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 91,638 ราย
“ มีการเคลื่อนที่ของประชาชนมากขึ้นหลังช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน” ยุนแทโฮ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอาวุโสระบุ
“ ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ชะลอตัวลงเรื่อยๆ แต่เราไม่อาจตัดความเป็นไปได้ว่าจะมีการติดเชื้อพุ่งขึ้นได้อีกครั้ง”
เพื่อเป็นการเร่งขับเคลื่อนโครงการฉีดวัคซีน ทำให้เมื่อวันที่ 5 มี.ค. เกาหลีใต้รับรองขึ้นทะเบียนวัคซีนของไฟเซอร์ /ไบออนเทคเพื่อการใช้งานในประเทศ
โดยกระทรวงความปลอดภัยอาหารและยารับรองขึ้นทะเบียนวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ หลังจากมีการประเมินอิสระ 3 รอบ ทำให้เป็นวัคซีนตัวที่ 2 ตามหลังวัคซีนของแอสตราเซเนกาที่เกาหลีใต้รับรองเป็นตัวแรก
วัคซีน 2 โดสของไฟเซอร์มีประสิทธิภาพมากกว่า 95% ซึ่งครอบคลุมถึงผู้ที่มีอายุ 16 – 17 ปี และ 65 ปีขึ้นไป อ้างอิงจากรายงาน
เกาหลีใต้ ซึ่งมีจำนวนประชากร 52 ล้านคน ทำสัญญาจัดซื้อวัคซีนกับบริษัทไฟเซอร์ที่เพียงพอสำหรับประชากร 23 ล้านคน ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเริ่มจัดส่งมาถึงในเดือนนี้
ทั้งนี้ เกาหลีใต้ได้รับวัคซีนล็อตแรกจากไฟเซอร์ภายใต้โครงการโคแวกซ์แล้ว ซึ่งครอบคลุมการใช้งานกับประชากรเกือบ 4,000 คน
อย่างไรก็ตาม ข่าวการเสียชีวิตของผู้ได้รับวัคซีนในเกาหลีใต้ส่งผลกระทบกับชื่อเสียงของบริษัทแอสตราเซเนกาไม่น้อย เนื่องจากตัวเลขประสิทธิภาพของวัคซีนที่ต่ำกว่าคู่แข่งอยู่แล้ว