มาตรฐาน โรงเรียนปลอดภัย ประกาศใช้ พ.ค.นี้
สมอ. ร่วมกับ สพฐ. จัดทำมาตรฐาน โรงเรียนปลอดภัย กว่า 30,000 โรง เตรียมประกาศใช้ภายในเดือน พ.ค. นี้
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการผลักดันให้มีการนำมาตรฐานการจัดการด้านความปลอดภัยไปใช้ในโรงเรียน ว่า สมอ. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และภาคีเครือข่ายเด็กปลอดภัยทั้งจากภาครัฐและเอกชนกว่า 10 หน่วยงาน จัดทำมาตรฐาน “โรงเรียนปลอดภัย” เพื่อให้สถานศึกษาในสังกัด สพฐ. กว่า 30,000 โรง เพื่อลดความเสี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากอุปกรณ์ หรือเครื่องมือต่างๆ เช่น อันตรายจากอาคารเรียน อาคารประกอบ สนามเด็กเล่น สนามกีฬา เพลิงไหม้ในห้องครัว อุบัติเหตุและอุปกรณ์ภายในห้องเรียน การจัดการเมื่อเกิดโรคระบาด และการตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม
รวมถึงการเตรียมความพร้อมและการดำเนินการเกี่ยวกับภาวะฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นในโรงเรียนเพื่อให้เด็กนักเรียน และบุคลากร ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีความปลอดภัยสูงสุด โดยขณะนี้อยู่ในกระบวนการประชาพิจารณ์เพื่อให้มาตรฐานมีความเหมาะสมในการนำไปใช้
และหลังจากนี้จะฝึกอบรมให้ความรู้แก่ผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอนเกี่ยวกับมาตรฐานดังกล่าวผ่านทางสื่อออนไลน์ของ สพฐ. ที่เชื่อมต่อกับทุกโรงเรียนในสังกัด ซึ่งคาดว่าเปิดเทอมใหม่ในเดือนพฤษภาคม 2564 นี้ ทุกโรงเรียนจะสามารถนำมาตรฐานดังกล่าวไปใช้บริหารจัดการภายในโรงเรียนได้ทันที
สำหรับ มาตรฐาน “โรงเรียนปลอดภัย” มีขอบข่ายคุ้มครองความปลอดภัยแก่นักเรียนใน 4 ด้าน ดังนี้
1) ด้านสิ่งแวดล้อมทางกายภาพของโรงเรียน เช่น อาคารเรียน อาคารประกอบ และสิ่งก่อสร้างอื่น สิ่งแวดล้อมภายนอกอาคาร เครื่องมือ เครื่องใช้ และอุปกรณ์ต่างๆ
2) ด้านการดำรงชีวิต ได้แก่ การบาดเจ็บ/อุบัติเหตุ จากสภาพแวดล้อม การเรียนการสอน และเครื่องเล่นต่างๆ จากบุคคล/อาชญากรรม สังคม/เทคโนโลยี สุขภาพ/สุขภาพจิต ยาเสพติด/กลั่นแกล้งรังแกกัน/ค้ามนุษย์ ติดเกม สื่อออนไลน์/เพศ/ความรุนแรงทะเลาะวิวาท
3) ด้านภัยพิบัติ จากธรรมชาติ เช่น อุทกภัย/อุทกภัยดินโคลนถล่ม /วาตภัย/อัคคีภัย/แผ่นดินไหว/สึนามิ จากมนุษย์ เช่น ไฟป่า/หมอกควัน/ฝุ่น PM 2.5 และจากโรคระบาด เช่น โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (covid -19) เป็นต้น
4) ด้านการเดินทาง ได้แก่ ทางบก เช่น รถของโรงเรียน รถของบุคคลภายนอก จักรยานยนต์/จักรยาน ทางน้ำ เดินเท้า และผู้ปกครองรับส่ง เป็นต้น
นอกจากยังได้เตรียมขยายผลต่อไปยังหน่วยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการปกครองส่วนท้องถิ่น และสำนักการศึกษา กทม. เพื่อร่วมกันผลักดันให้มีการนำมาตรฐานโรงเรียนปลอดภัยไปประยุกต์ใช้ให้ครอบคลุมทั่วประเทศต่อไป