สรุป ม็อบ 28 ก.พ. ตาย 1 เจ็บ 32 กระสุนยาง-แก๊สน้ำตา มาครบ
ศูนย์เอราวัณ สรุปข้อมูลผู้บาดเจ็บ ในเหตุการณ์ชุมนุมครั้งนี้ มีการนำส่งโรงพยาบาล จำนวน 33 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ 23 ราย ประชาชน 10 ราย
การชุมนุมของกลุ่ม REDEM เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา เกิดความรุนแรงขึ้นหลายช่วงเวลา โดนสามารถสรุปไทม์ไลน์ของการชุมนุมได้ดังนี้
กลุ่ม REDEM นัดหมายรวมพล 15.00 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเดินขบวนไปบ้านพักหลวงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ณ กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์
ต่อมาเวลา 16.45 น. มีการประกาศให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปยังบ้านพักหลวงของ พล.อ.ประยุทธ์ โดยกิจกรรมครั้งนี้ มีการประกาศว่าไม่มีใครเป็นแกนนำ แต่มีการนัดหมายผ่านเพจเฟซบุ๊ก
เวลา 18.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมพากันเคลื่อนตู้คอนเทนเนอร์ที่กีดขวางรั้วและทางเข้า-ออกกรมทหารออกจากแนวกั้นเดิมที่เจ้าหน้าที่วางไว้ 2 ตู้ ก่อนที่ตำรวจควบคุมฝูงชนจะกรูกันเข้ามาอุดช่องโหว่ที่ถูกเปิดไว้ พร้อมตั้งโล่เตรียมการรอรับการปะทะ โดยในการชุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมการรับมือเป็นอย่างดี มีตำรวจชุดควบคุมฝูงชน เข้ามาทำหน้าที่จำนวนมาก
เวลา 18.30 น. ตำรวจมีคำสั่งให้เข้าจับกุมผู้ที่ใช้อาวุธก่ออันตราย ระหว่างนั้นมีการขว้างปาและยิงหนังสติ๊กใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจากบุคคลไม่ทราบฝ่ายในฝั่งของผู้ชุมนุม จากนั้นเจ้าหน้าที่ตัดสินใจใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดใส่ผู้ชุมนุมจนกระจายตัวกันออกไป
เวลา 21.00 น. ตำรวจได้ประกาศยุติการชุมนุม และขอให้ประชาชนที่ประสงค์ออกจากพื้นที่ข้ามถนนไปฝั่งตรงกันข้ามเพื่อเดินทางกลับบ้าน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะทำการเคลียร์พื้นที่เปิดเส้นทางการจราจร
เวลา 21.15 น. เกิดการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่และมวลชน มีการขว้างปาสิ่งของ บริเวณถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออก ตรงข้ามด้านหน้ากรมทหารราบที่ 1 โดยเจ้าหน้าที่ได้นำรถฉีดน้ำใส่มวลชน และมีการใช้กระสุนยาง และแก๊สน้ำตา
ทั้งนี้ ระหว่างการชุมนุม ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ชุมนุมอย่างน้อย 22 คน เพื่อซักถามและจะแจ้งข้อหา ส่วนที่พบการกระทำความผิด เป็นความผิดซึ่งหน้าตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน
มีรายงานว่า ระหว่างการชุมนุมเกิดการปะทะ ทำให้ ร.ต.อ.วิวัฒน์ เสริฐสนิท รองสารวัตร สังกัด สน.ธรรมศาลา ซึ่งได้เดินทางมาปฎิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชน ได้เกิดอาการหัวใจหยุดเต้นอย่างกะทันหัน ทำให้เพื่อนตำรวจ และแพทย์ ที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ต่างช่วยกันปั้มหัวใจ เพื่อยื้อชีวิต
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์ ได้นำตัวส่งพยาบาลโรงพยาบาลราชวิถี ในเวลาต่อมา และแพทย์ได้รีบนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน พร้อมกับปั๊มหัวใจช่วยชีวิต แต่ไม่เป็นผล ทำให้ ร.ต.อ.วิวัฒน์ เสียชีวิต
ศูนย์เอราวัณ สรุปข้อมูลผู้บาดเจ็บ ในเหตุการณ์ชุมนุมครั้งนี้ มีการนำส่งโรงพยาบาล จำนวน 33 ราย (เจ้าหน้าที่ 23 ราย ปชช.10 ราย) ข้อมูล ณ วันที่ 1 มีค.64 เวลา 06.30 น.
รพ.ตำรวจ 22 ราย (เข้ารักษาที่ รพ.ทหารผ่านศึกมาก่อน 2 ราย)
รพ.ราชวิถี 7 ราย (เจ้าหน้าที่ 1 ราย เสียชีวิต)
รพ.รามาธิบดี 2 ราย
รพ.พระรามเก้า 1 ราย
รพ.จุฬาลงกรณ์ 1 ราย
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แสดงความเสียใจกรณี ร.ต.อ.วิวัฒน์ สินเสริฐ สังกัด สน.ธรรมศาลา ซึ่งไปปฎิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนในเหตุการณ์การชุมนุม เมื่อวันที่ 28 ก.พ.64 เกิดอาการหัวใจหยุดเต้น และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
“นายกรัฐมนตรีรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมกำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและผู้บังคับบัญชาทุกระดับดูแลสวัสดิการตามระเบียบทางราชการอย่างเต็มที่ และให้กำลังใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิต ที่สำคัญจะต้องใส่ใจเรื่องสภาพความพร้อมของร่างกายและจิตใจก่อนปฏิบัติหน้าที่ด้วย”
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครอยากให้เกิดกรณีเช่นนี้ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเจ้าหน้าที่หรือผู้ชุมนุมก็ตาม โดยขอให้ผู้ที่จะชุมนุมตระหนักถึงเรื่องนี้ให้มาก ทุกคนมีสิทธิชุมนุมได้แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย และไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่นหรือใช้ความรุนแรง หรือยั่วยุให้เกิดความแตกแยกในสังคม รวมทั้งฝากความห่วงใยถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทน ระมัดระวังปฏิบัติตามหลักยุทธวิธีสากล โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนและตนเองเป็นสำคัญ