จับตาปรับ ครม. หลัง 3 รัฐมนตรี กปปส.หลุดตำแหน่ง
การปรับ ครม. จะมีขึ้นในเร็วๆนี้ หลังศาล สั่งจำคุก 3 รัฐมนตรี กปปส. บิ๊กป้อม โดย ถามนายกฯ ประชาธิปัตย์ ย้ำโควต้าคงเดิม
การปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) มาเร็วขึ้น เมื่อศาลอาญาพิพากษา คดีกบฎ 39 กลุ่ม กปปส.ปิดเมือง ขวางเลือกตั้ง ไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยมี 3 คน เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องโทษจำคุก หลุดจากตำแหน่ง รมต.ทันที ประกอบด้วย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ และนายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม
เมื่อวันที่ 25 ก.พ. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการปรับ ครม.ว่า ขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จะตัดสินใจ ต้องถามนายกรัฐมนตรี ตนจะไม่เสนอใครทั้งนั้น และยืนยันว่าโควต้าพรรคร่วมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เป็นไปตามที่คุยกันตั้งแต่ตั้งรัฐบาล
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส่วนตัวขอให้กำลังใจทุกคนที่ถูกดำเนินคดี ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายดูแลสมาชิกของพรรคที่ถูกดำเนินคดีอย่างเต็มที่ โดยต้องดำเนินการให้ไปตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งตนไม่สามารถชี้ได้ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร และผลที่ตามมาหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรสิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้ คือ ต้องเร่งขอประกันตัวทุกคนให้ได้ออกมาต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป เพราะขณะนี้คดีอยู่ในศาลชั้นต้นเท่านั้น ซึ่งต้องทำให้ทุกคนได้รับอิสรภาพก่อน
ส่วนการที่นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม ซึ่งเป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคต้องโทษจำคุก และส่งผลให้พ้นจากตำแหน่งทันทีนั้น นายจุรินทร์ ระบุว่า พรรคยังไม่ได้วางแนวทางว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อบังคับของพรรค โดยขณะนี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่ส่งสัญญาณปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่อย่างใด และยืนยันว่า ไม่กังวลหลังมีกระแสข่าวว่าพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคต้องการขอโควตารัฐมนตรีเพิ่มมากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตามหลักการควรจะจัดสรรโควตารัฐมนตรีเท่าเดิม เหมือนตอนที่ขอร่วมรัฐบาล โดยหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรไม่สามารถตอบล่วงหน้าได้ เพราะนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้พิจารณาเรื่องสัดส่วนของแต่ละพรรค ตนไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะตัดสินใจอะไรได้ยกเว้นในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น และพรรคยังไม่ได้วางแนวทางว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปแต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อบังคับพรรค
ด้าน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ปฏิเสธที่จะตอบถึงการปรับคณะรัฐมนตรี โดยระบุว่าพรรคภูมิใจไทยจะได้โควต้าเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ในพรรคที่จะไปพิจารณา ต้องสอบถามความชัดเจนจากหัวหน้าพรรคหรือเลขาธิการพรรค ตนไม่มีอำนาจในการแสดงความคิดเห็น ทำได้เพียงแสดงความเสียใจกับผู้ที่ถูกศาลตัดสินจำคุกจากกรณีการชุมนุมทางการเมือง
นายชาดา ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย วอล์คเอาท์ออกจากห้องประชุมเมื่อวานนี้(24 ก.พ.64 ) ว่า เป็นปัญหาจากหลายเรื่อง โดยเฉพาะต้องการให้เร่งพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฯ ประกอบกับเป็นการแสดงความรู้สึกจากผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ทางภูมิใจไทยลงมติไว้วางใจให้นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ครบทั้ง 61 เสียง แต่รัฐมนตรีของทางพรรคภูมิใจไทย กลับได้รับผลตรงกันข้ามจาก ส.ส. บางส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ ตนเข้าใจในความเห็นต่าง แต่มารยาทการเมืองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง หากถามว่ารู้สึกอะไรหรือไม่ ก็ยอมรับว่ารู้สึกกันทั้งพรรค ส่วนหลังจากนี้จะทำงานร่วมกันได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ในพรรคต้องไปทำความเข้าใจกัน