GULF มั่นใจขายไฟ IPP ดันรายได้ปีนี้โต 50%
GULF เผย ปี 63 มีกำไร ลดลง 12.4% มั่นใจปี 64 รายได้โตขึ้น 50 % จาก COD โครงการโรงไฟฟ้า IPP จำนวน 2,650 MV
นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เผยผลการดำเนินงาน ปี 2563 มีรายได้รวม 35,833 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากปี 2562 และมี Core Profit เท่ากับ 4,478 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จาก 3,509 ล้านบาทในปีก่อน ในส่วนของกำไรสุทธิ (Net Profit) ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่สำหรับปี 2563 เท่ากับ 4,282 ล้านบาท ลดลง 12.4% จากปีก่อน
ส่วนรายได้ปี 2564 คาดว่าจะเติบโตขึ้นประมาณ 50 % จากปี 2563 เนื่องมาจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการโรงไฟฟ้า IPP 2,650 เมกะวัตต์ ได้แก่ โครงการ GSRC หน่วยที่ 1 และ 2 ซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวม 1,325 เมกะวัตต์ โดยจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าในเดือนมีนาคมและตุลาคม 2564
อีกทั้งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเลที่ประเทศเวียดนาม (Mekong Wind) ระยะที่ 1-3 มีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวม 128 เมกะวัตต์ จะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าในเดือน พฤษภาคม และตุลาคม 2564 และโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่ประเทศโอมาน จำนวน 326 เมกะวัตต์ (DIPWP) ระยะที่ 1 ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง 40 เมกะวัตต์ จะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 2 ปีนี้
ซึ่งทั้งหมดนี้ จะทำให้ GULF มีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งเพิ่มขึ้น จาก 6,409 เมกะวัตต์ ในปี 2653 เป็น 7,903 เมกะวัตต์ ในปี 2564 นอกจากนี้ ในปี 2564 บริษัทฯ จะเริ่มรับรู้กำไรเต็มปีจากโครงการโรงไฟฟ้าลมในทะเล BKR2 และโครงการจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ PTT NGD ที่บริษัทฯ ได้เข้าซื้อในสัดส่วน 40% ในเดือน ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา ประกอบกับรับรู้เงินปันผลที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในหุ้น INTUCH อีกด้วย
นอกจากนั้น คณะกรรมการบริษัทฯ ยังได้มีมติเห็นชอบให้นำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ในวันที่ 9 เมษายน 2564 เพื่อพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผล ประจำปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 0.38 บาท กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 28 เมษายน 2564