ทึ้งสรรพากรฝากคุย ก.ล.ต.เอื้อคริปโตเคอเรนซี่
สรรพากรเปิดตัวครั้งแรกบนเวทีสาธารณะ หลัง ก.ล.ต.คลอด กม.สินทรัพย์ดิจิทัล ระบุโดนนักลงทุนซักหนัก ปมภาษีแคปิตอลเก็นและการออก ICO ระบุ ทุกอย่างเพื่อปกป้องนักลงทุนและระบบเศรษฐกิจของไทย เชื่อข้อเสนอจากทุกฝ่ายอาจสร้างจุดผ่อนปรนให้อุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซี่ได้
งานเสวนาเตรียมความพร้อมธุรกิจให้ยั่งยืนกับ พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล จัดขึ้นโดยสมาคมการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อธุรกิจท่องเที่ยว (ETA) ร่วมกับเครือ นสพ.ดอกเบี้ย และชมรมคอลัมนิสต์ฯ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 4 มิ.ย. ณ ห้อง701 อาคาร B ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเสวนาที่เต็มไปด้วยคำถามมากมายไปยังตัวแทนกรมสรรพากร คือ นายศุภรัตน์ จันทร์นามวงศ์ นิติกรชำนาญการพิเศษ สรรพากรภาค 2 และ ดร.ณัฐนันท์ จันทร์ประทีปฉาย นิติกรชำนาญการ สำนักกฎหมาย กรมสรรพากร เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่กรมจัดเก็บภาษีแห่งนี้ ได้เปิดตัวต่อสาธารณชนภายหลังมีการออก พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล
โดยเฉพาะประเด็นอัตราภาษี หัก ณ ที่จ่าย ซึ่งจัดเก็บจากกำไรของการขายคริปโตเคอเรนซี่ (สกุลเงินดิจิทัล) สูงถึงร้อยละ 15 และมองว่าการออก ICO หรือการระดมทุนนอกตลาดหลักทรัพย์ ถือเป็นรายได้ที่ต้องเสียภาษีในอัตราเดียวกัน อาจจะส่งผลเสียต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซี่ และการออก ICO กระทั่ง อาจมีการย้ายการทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องไปยังประเทศเพื่อบ้าน จนทำให้ไทยสูญเสียโอกาสทั้งเรื่องการจัดเก็บรายได้ภาษี และการเป็นศูนย์กลางการเงินดิจิทัลของภูมิภาค รวมถึงส่งผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจของไทย
ดร.ณัฐนันท์ กล่าวว่า เท่าที่หารือร่วมกับคณะกรรมการกำกับหักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เชื่อว่า ก.ล.ต.ก็กังวลใจในเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ก.ล.ต.คงต้องมองภาพรวมในการปกป้องผลประโยชน์ของนักลงทุนเป็นหลักหากไม่ควบคุมเข้มงวด กระทั่งมีนักลงทุนจำนวนมากได้รับความเสียหายจากการลงทุนทั้งในส่วนคริปโตเคอเรนซี่และ ICO สิ่งนี้อาจส่งผลกระทบในวงกว้างของระบบเศรษฐกิจของไทย ส่วนอัตราแคปปิตอลเก็นภาษีร้อยละ 15 นั้น ก็เป็นอัตราปกติที่จัดเก็บจากรายได้ส่วนอื่นๆ อยู่แล้ว หากกรมสรรพากรจัดเก็บในอัตราที่ต่ำกว่ารายได้จากส่วนอื่นๆ ก็จะไม่เป็นธรรมมากนัก
นายศตพล จันทร์ณรงค์ นายกสมาคม ETA กล่าวเสริมว่า เนื่องจาก พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล ได้ออกมาก่อนหน้านี้ และตอนนี้อยู่ในช่วงของการเปิดรับความความเห็นสาธารณะจากทุกฝ่าย หากนักลงทุนและผู้เกี่ยวข้องต้องการจะนำเสนอความคิดเห็นใดๆ สามารถส่งต่อมายังสมาคมฯ ที่ขออาสาเป็นตัวกลาง เพื่อเก็บรวมรวมและสรุปความคิดเห็น รวมถึงข้อเสนอแนะอื่นๆ ไปยัง ก.ล.ต.ในโอกาสต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่เปิดให้มีการถามตอบ มีข้อเสนอจากนักลงทุนหลายส่วนที่ต้องการให้กรมสรรพากรสรุปข้อเสนอแนะที่ได้จากเวทีนี้ ส่งต่อไปยัง ก.ล.ต. เนื่องจากเชื่อว่ามุมมองหรือข้อเสนอแนะใดจากกรมสรรพากร น่าจะมีพลังมากพอจะทำให้ ก.ล.ต.รับฟัง กระทั่ง ปรับเปลี่ยนแนวทางหรือสร้างมาตรการผ่อนปรนให้กับนักลงทุนในกลุ่มคริปโตเคอเรนซี่ และ ICO ได้.