เอ๋ ขอศาลเห็นใจ ส.ส.เลี้ยงไก่ หลังถูก ป.ป.ช.ชี้มูล
ปารีณา ไกรคุปต์ ยืนยัน ปฎิบัติตามกฎหมาย หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดจริยธรรมร้ายแรง
เมื่อวันที่ 11 ก.พ. น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดจริยธรรมร้ายแรงว่า เมื่อ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดจริยธรรมร้ายแรง กรณีปารีณา ถือครอง ภบท.5 ที่ดินประเภท สปก. โดยแสดงไว้ในบัญชีทรัพย์สิน นักการเมือง และข้าราชการ ที่เคยเสียภาษี ภบท 5 ทุกคน ก็จะมีความผิดจริยธรรมเช่นเดียวกัน
น.ส.ปารีณา กล่าวว่า ขอยืนยันว่าที่ดินดังกล่าวได้ซื้อต่อมาจากเกษตรกรรายอื่น ตามเอกสาร ภบท.5 และได้มาทำกินโดยเป็นอาชีพ สุจริต คือเลี้ยงไก่อย่างเปิดเผยและถูกต้องตามกฏหมาย มีการเสียภาษี และขอใบรับรองมาตราฐานฟาร์มมาก่อนเป็น ส.ส.วันนี้ปารีณา ถูกกล่าวหาเช่นเดียวกับ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่ถูกกล่าวหาว่าบุกรุกป่า ซึ่ง ทั้ง 2 คดี ศาลยังไม่ตัดสิน คดียังไม่สิ้นสุดเลยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอยู่เลย ดังนั้น พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ จึงสมควรถูกชี้มูลความผิดจริยธรรมร้ายแรงเช่นเดียวกับปารีณา เพื่อไม่เป็นการเลือกปฏิบัติ
น.ส.ปารีณา กล่าวว่า เมื่อ ป.ป.ช. ส่งศาล ก็เป็นดุลพินิจของศาลที่จะให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวหรือไม่ จึงขอกราบศาลได้เมตตา เกษตรกรคนนี้ ที่เลี้ยงไก่มาก่อนมาเป็น ส.ส. โดยนายทศพล เพ็งส้ม ทนายความ ขอไม่ให้แถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ เป็นคดีแรกของประเทศไทย อยู่ระหว่างศึกษาและเตรียมดำเนินการโดยละเอียดอยู่ ปารีณาดื้อ จึงขอแสดงออกความรู้สึกเรื่องนี้แต่เพียงครั้งเดียว เท่านี้ และปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฏหมาย โดยจะไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆอีก ตามที่นายทศพลขอ
วันเดียวกัน นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวกรณีเรื่องร้องเรียนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยาของ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ว่า ทำตามอำนาจหน้าที่และขอบเขตของ ประธาน กมธ. ส่วน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มีหน้าที่ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงเพราะ กมธ.ไม่ได้มีตนเพียงคนเดียว แต่ประกอบด้วย ส.ส.ทั้งหมด 15 คน ทั้งจากฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลไม่ใช่เรื่องส่วนตัว พร้อมขอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินว่าเรื่องนี้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะหรือไม่ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวเกิดจากกรมเจ้าท่าได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) บางโพ ซึ่งคดีนี้กรมเจ้าท่ามีการแจ้งความไปแล้วเป็นระยะเวลากว่า 1 ปีแต่ไม่มีความคืบหน้า และเหตุที่กรมป่าไม้เข้ามาเกี่ยวข้อง เนื่องจากสน.บางโพได้เชิญกรมป่าไม้ กรมเจ้าท่า สำนักงานเขตดุสิต และกรมที่ดินลงพื้นที่เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 พบมีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป่าไม้พ.ศ. 2484 จึงได้ไปแจ้งความที่สำนักงานตำรวจป่าไม้ เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในการทำคดี
ทั้งนี้ ตนจะเชิญ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เข้าชี้แจงข้อมูลต่อ กมธ.พร้อมยินดีหาก กมธ.การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีพล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เป็นประธาน กมธ. จะประชุมร่วมกับ กมธ.การกฎหมายฯ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวร่วมกัน