มาเลเซียพบที่ทำงานเป็นแหล่งติดเชื้อสำคัญ
คลัสเตอร์ที่ทำงานผุดขึ้นเป็นแหล่งติดเชื้อสำคัญของโควิด-19 ในมาเลเซีย โดยมีผู้ติดเชื้อหลายร้อยรายที่สอบสวนโรคแกะรอยไปถึงบริษัทเอกชนและหน่วยงานภาครัฐ
แม้ประชาชนส่วนใหญ่ทำงานที่บ้านในช่วงที่มีประกาศคำสั่งห้ามเดินทาง ที่เริ่มตั้งแต่ 13 ม.ค. แต่ธุรกิจจำเป็นและร้านค้าปลีกจำนวนมากยังดำเนินกิจการตามปกติ
เมื่อวันที่ 22 ม.ค. กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า มี 7 จาก 12 คลัสเตอร์ที่เชื่อมโยงกับสถานที่ทำงาน ทำให้มีผู้ติดเชื้อถึง 262 รายจากตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวัน 3,631 ราย
จากการคัดกรองของรปภ.ที่ห้างสรรพสินค้าในยะโฮร์ บารู ทำให้ตรวจพบหนึ่งในคลัสเตอร์ใหม่ในสถานที่ทำงาน
โดยมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 กับ 46 ราย และพบว่ามีผู้ติดเชื้อถึง 43 ราย พวกเขาทำงานอยู่ในโรงแรมเดียวกันในทามันเซ็นจูรี
เมื่อวันที่ 21 ม.ค. มีรายงาน 11 จาก 16 คลัสเตอร์ที่เชื่อมโยงกับสถานที่ทำงาน ทำให้มีผู้ติดเชื้อถึง 205 รายจากยอดผู้ติดเชื้อรายวัน 3,170 รายในวันนั้น
โดยสถานที่ทำงานที่ได้รับผลกระทบคือโรงงาน โรงงานน้ำมันปาล์ม สถาบันกวดวิชา และตลาดค้าส่งใหญ่ที่สุดของมาเลเซียที่ตั้งอยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งปิดให้บริการตั้งแต่ 21 ม.ค. โดยมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อทั้งหมด 163 ราย ที่ตลาดค้าส่งแห่งนี้
ขณะที่โรงงานผลิตถุงมือ Top Glove มีการแพร่ระบาดรอบใหม่ โดยในวันที่ 16 ม.ค. มีการตรวจพบแรงงานติดเชื้อ 165 ราย
ในสัปดาห์นี้ พนักงานคนหนึ่งของ Prasatana ผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะ ซึ่งมีการสัมผัสใกล้ชิดกับประธาน ต้องตรวจหาเชื้อ หลังพบว่าประธานติดเชื้อในวันที่ 20 ม.ค. และพนักงานที่เหลือต้องกักตัวเองที่บ้าน และมีการทำความสะอาดฆ่าเชื้ออาคารสำนักงานครั้งใหญ่
หลายคนเชื่อว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นจากการที่รัฐบาลประกาศยกเลิกคำสั่งห้ามเดินทางในวันที่ 7 ธ.ค.ปีที่แล้ว ทำให้ประชาชนจำนวนมากพากันเดินทางกลับบ้านในช่วงวันหยุดเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่
“ จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในที่ทำงาน ไม่ได้เป็นเพราะบริษัทคัดกรองโควิด-19 ไม่ดี แต่เป็นเพราะช่วงสิ้นปีที่แล้ว มีการเดินทางมากระหว่างชุมชนกับที่ทำงาน ซึ่งทำให้มีการติดเชื้อมากขึ้น หลังจากนั้น เมื่อมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในที่ทำงาน จึงถูกจัดว่าเป็นคลัสเตอร์ติดเชื้อที่ทำงาน” ชามซุดดิน บาร์ดาน ประธานสมาพันธ์นายจ้างมาเลเซียให้ความเห็น
ขณะเดียวกัน ห้างสรรพสินค้าที่เปิดบริการช่วงที่มีคำสั่งห้ามเดินทาง ให้ความสำคัญกับมาตรการความปลอดภัยเป็นอันดับแรก
“เนื่องจากห้างยังคงเปิดให้บริการช่วงที่มีคำสั่งห้ามเดินทาง เพื่อให้นักช้อปและพนักงาน 12,000 คนของเราซื้อสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน ทางห้างจึงมีมาตรการเพื่อความปลอดภัยที่มีมาตรฐานสูง” เอช ซี ชาน ซีอีโอของซันเวย์มอลส์ และธีม พาร์คส์ ซึ่งดำเนินกิจการห้างค้าปลีก 7 แห่งในมาเลเซียกล่าวให้สัมภาษณ์สื่อ
โดยมาตรการเหล่านี้มีทั้ง การติดตั้งที่สแกนอุณหภูมิ และที่วัดอุณหภูมิดิจิทัลที่ทางเข้าของห้าง เพื่อตรวจคัดกรองลูกค้าและพนักงานห้าง มีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อในทุกจุดที่มีการสัมผัส ฉีดพ่นฆ่าเชื้อทุกคืน และฆ่าเชื้อระบบเครื่องปรับอากาศทั้งหมด