‘ทรัมป์’ แถลงอำลาตำแหน่ง
วอชิงตัน : เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แถลงอำลาตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯผ่านยูทูบ โดยขอให้มีการสวดภาวนาให้รัฐบาลใหม่ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แต่ไม่ได้เอ่ยถึงชื่อไบเดน
“ สัปดาห์นี้ เราทำพิธีสาบานตนของรัฐบาลใหม่ และขอภาวนาให้ประสบความสำเร็จในการทำให้อเมริกาปลอดภัยและเจริญรุ่งเรือง” ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันระบุในการแถลง “ เราขอส่งความปรารถนาดี และเราขอให้พวกเขาโชคดี ซึ่งเป็นคำที่มีความสำคัญมาก”
ทรัมป์ที่ครบวาระการดำรงตำแหน่งไม่ได้มีการประชุมกับไบเดนก่อนพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.และมีแผนเดินทางไปฟลอริดา ซึ่งเขาจะไปอาศัยอยู่ที่นั่นหลังออกจากทำเนียบขาว
ทรัมป์พยายามทำตามแคมเปญหาเสียงที่ว่า “Make America Great Again” แต่ออกจากตำแหน่งไปในช่วงเวลาที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากถึง 400,000 ราย , เศรษกิจพังเสียหายจากโรคระบาด และความสัมพันธ์กับประเทศพันธมิตรที่ย่ำแย่ลง
“ อันตรายสูงสุดที่เราประสบอยู่คือเราสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวเราเอง สูญเสียความเชื่อมั่นในความยิ่งใหญ่ของชาติเรา” ทรัมป์ระบุ
นานหลายเดือนที่ทรัมป์กล่าวหาโดยไม่มีหลักฐานว่า มีการโกงการเลือกตั้งและมีการกดดันหลายรัฐให้เปลี่ยนผลการเลือกตั้ง ในเหตุประท้วงใกล้ทำเนียบขาวในวันที่ 6 ม.ค. เขายุยงให้ผู้สนับสนุนบุกสภาคองเกรส ขณะที่ส.ส.กำลังจะรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการของไบเดน โดยเหตุจลาจลที่สภาทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 5 คน รวมถึงตำรวจประจำสภาด้วย
สภาผู้แทนราษฎรถอดถอนทรัมป์ในข้อหายุยงปลุกปั่นให้มีการต่อต้านรัฐ ทำให้เขากลายเป็นประธานาธิบดีคนแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐฯที่ถูกถอดถอนถึง 2 ครั้ง และเขาจะต้องถูกดำเนินคดีอีกหลายข้อหาหลังออกจากตำแหน่ง
ในการแถลงอำลาเมื่อวันที่ 19 ม.ค. โดยไม่ได้เจาะจงอ้างถึงการตัดสินใจของทวิตเตอร์ที่ระงับบัญชีผู้ใช้งานของเขาอย่างถาวร ทรัมป์ระบุว่า เสรีภาพในการพูดของเขาถูกปิดกั้นจากบริษัท ทวิตเตอร์ระบุว่า บริษัทระงับบัญชีเพราะความเสี่ยงที่จะมีการยุยงปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรงมากขึ้น
“ การปิดกั้นการดีเบตอย่างเสรีและเปิดกว้างเป็นการละเมิดคุณค่าหลักของเราและธรรมเนียมดั้งเดิมที่มีมาอย่างมั่นคง” ทรัมป์ระบุ “ อเมริกาไม่ใช่ชาติที่ขี้ขลาดตาขาว ที่คุณจะกักขังจิตวิญญาณและกำจัดให้ห่างจากคนที่คุณไม่เห็นด้วย”
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังเน้นถึงความภาคภูมิใจในสิ่งที่เขาทำระหว่างอยู่ในตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ
“เราได้ทำสิ่งที่เรามุ่งหวังที่จะมาทำที่นี่” เขากล่าว “ เป็นการต่อสู้ที่ยาก ยากที่สุด เลือกสิ่งที่ยากที่สุด เพราะคุณเลือกผมมาให้ทำสิ่งเหล่านี้”
ทรัมป์ ซึ่งออกจากตำแหน่งท่ามกลางความแตกแยกร้าวลึกในประเทศ ที่เห็นชัดที่สุดคือเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภา โดยหลังเหตุรุนแรง ทรัมป์ออกตัวช้ากว่าที่จะประณามผู้ก่อเหตุ
ตัวทรัมป์เอง ( ซึ่งอดีตที่ปรึกษาของเขาทำนายว่าเขาหมดอนาคตทางการเมืองหลังเหตุจลาจล) ชี้ว่าเขาจะยังคงเคลื่อนไหวต่อไป
“ตอนนี้ ขณะที่ผมเตรียมพร้อมส่งมอบอำนาจให้รัฐบาลใหม่ในวันที่ 20 ม.ค. ผมอยากให้คุณรู้ว่า ความเคลื่อนไหวที่เราเริ่มไปแล้วเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น” ทรัมป์ระบุ
“ผมไปจากสถานที่อันเกรียงไกรแห่งนี้ด้วยหัวใจที่ซื่อสัตย์และปลื้มปิติ และจิตวิญญาณในแง่บวก และเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมว่า สิงที่ดีที่สุดสำหรับประเทศของเราและเด็กๆของเรายังมาไม่ถึง”