เดือด สธ.ตั้งโต๊ะแถลง โต้ “ธนาธร” หลังวิจารณ์วัคซีนไทย
ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ปม วัคซีน โต้ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หลังวิจารณ์วัคซีนไทย
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 ม.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าว ภายหลังนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า วิพากษ์วิจารณ์กระบวนการจัดหาวัคซีนของรัฐบาลไทย
โดย นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวว่า สำหรับการพิจารณาสั่งจองวัคซีนจากบริษัทแอสตราเซเนกา มีเพียงโรงงานผลิตของบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ เท่านั้นที่มีความสามารถในการรองรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี เพราะหลายบริษัทของเอกชน ไม่มีความพร้อมเพียงพอ โดยบริษัทแอสตราเซเนกา เป็นคนเลือกสยามไบโอไซเอนซ์เอง และแอสตราเซเนกา ต้องการขยายฐานการผลิตไปทั่วโลก โดยให้มีการผลิตจำนวนมาก มีหลายประเทศต้องการได้ข้อตกลงเช่นเดียวกับประเทศไทย การได้ไทยเป็นฐานการผลิตวัคซีน จึงแสดงถึงศักยภาพของเรา
นพ.นคร กล่าวว่า บริษัทผลิตยาของสยามไบโอไซเอนซ์ เป็นพื้นฐานที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงวางแนวทางไว้ ตามปรัชญาขาดทุนคือกำไร คือแม้จะเป็นการขาดทุน แต่กำไรคือไทยจะมีศัพยภาพในการผลิต ประหยัดงบประมาณด้านสาธารณสุข คนที่ไม่เห็นอาจเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า รัฐบาลไปสนับสนุนบริษัทที่ขาดทุน แต่ความจริงไม่ใช่ เพราะการมีทุนต้นที่ดี ทำให้เราได้รับการคัดเลือกจากแอสตราเซเนกา หากไม่มีการทำไว้เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน เราจะเข้าไม่ถึงวัคซีน 26 ล้านโดส
“ประชาชนไม่ต้องกังวลว่าเราจะไม่มีวัคซีนเพียงพอ มีเพียงพอแน่ เพราะเราสามารถผลิตวัคซีนในประเทศ พึ่งพาตัวเองได้ในอนาคต การที่แอสตราเซเนกา เข้ามาร่วมกับทีมประเทศไทย เป็นเรื่องที่น่าสรรเสริญ โดยสยามไบโอไซเอนซ์ ต้องหยุดการผลิตสิ่งอื่นๆที่ทำอยู่เดิม แล้วหันมาผลิตวัควีน โดยเราได้รับการถ่ายทอดการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ ซึ่งเป็นไปตามแผน ทำให้มั่นใจว่าเราจะได้วัคซีนในช่วงเดือน พ.ค.”
นพ.นคร กล่าวว่า สำหรับแนวทางการจัดหาวัคซีนเพื่อประชากรไทย 50 เปอร์เซ็นต์นั้น เป็นเพียงเป้าที่ตั้งไว้ในปี 2564 เพราะเราไม่จำเป็นต้องเดือดร้อนในการหาวัคซีนมาเพียงครั้งเดียว ถึงอย่างไรวัคซีนก็เพียงพอต่อประชากรโลก เพียงแต่เวลานี้ยังเป็นสิ่งหายาก จึงต้องใช้ความรอบคอบในการพิจารณาเลือกรับ จึงขอให้ผู้ที่วิจารณ์ต้องใช้ความสามารถในการตรวจสอบให้มากกว่านี้ เพราะบางประเทศจะเห็นว่ามีปัญหาจากผลข้างเคียงของวัคซีนแล้ว
นพ.นคร กล่าวว่า การรีบร้อนใช้วัคซีน โดยไม่ศึกษาให้รอบคอบ อาจเกิดผลเสีย ขอให้ผู้วิพากษ์วิจารณ์ ช่วยใช้ข้อมูลอย่างครบถ้วน ไม่ใช้ข้อมูลเพียงด้านเดียว หรือนึกคิดเอาเองตามประสบการณ์ที่ผ่านมา เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดของประชาชน ส่วนกรณีการกล่าวหาว่าบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จะขายให้กระทรวงสาธารณสุขนั้น เป็นความเข้าใจผิด เพราะแอสตราเซเนกา จ้างสยามไบโอไซเอนซ์ผลิตวัคซีนให้ และมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ด้วย โดยการผลิตวัคซีนดังกล่าวขายให้กับประเทศไทยในราคาทุน และการจ้างผลิตก็เป็นไปในราคาต้นทุนด้วยเช่นกัน จึงไม่มีผลประโยชน์ระหว่างกัน