ญี่ปุ่นคุมเข้มเดินทางเข้าประเทศอีก
จากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นอีก และความกลัวการแพร่เชื้อโควิดกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่จากต่างประเทศ ทำให้ญี่ปุ่นมีมาตรการคุมเข้มห้ามการเดินทางเข้าประเทศอีกครั้ง
ประเทศที่มีการทำข้อตกลงการเดินทางเพื่อธุรกิจก่อนหน้านี้ ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากมาตรการคุมเข้มล่าสุดคือ กัมพูชา จีน เกาหลีใต้ ฮ่องกง มาเลเซีย เมียนมา สิงคโปร์ ศรีลังกา ไต้หวัน ประเทศไทยและเวียดนาม
สำหรับชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติที่พำนักถาวรซึ่งเข้าประเทศและเพิ่งกลับเข้าประเทศอีก รัฐบาลขู่จะแจ้งชื่อและประจานผู้ที่ละเมิดมาตรการกักตัวหลังเดินทางมาถึง โดยชาวต่างชาติอาจสูญเสียสถานะในการพักอาศัยหากไม่ปฏิบัติตามมาตรการกักตัว
จากมาตรการใหม่ที่มีผลตั้งแต่ 14 ม.ค. รัฐบาลญี่ปุ่นห้ามผู้มีวีซ่าทั้งหมดเดินทางเข้าประเทศ ยกเว้นแต่นักเดินทางเพื่อธุรกิจที่มีใบอนุญาตเข้าประเทศ และนโยบายล่าสุด ญี่ปุ่นขยายคำสั่งห้ามให้ครอบคลุมผู้ที่เดินทางโดยมีจุดประสงค์ทางธุรกิจจากประเทศที่มีข้อตกลงร่วมกัน รวมทั้งโครงการสำหรับนักกีฬาที่เตรียมตัวสำหรับกีฬาโอลิมปิกที่เลื่อนออกไป
นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซุงะประกาศในการแถลงข่าวเมื่อคืนวันที่ 13 ม.ค.ว่า มาตรการคุมเข้มพรมแดนจะเข้มงวดยิ่งขึ้นเพื่อรับมือกับความกังวลจากการติดเชื้อที่มากขึ้นจากไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์
มาตรการนี้จะมีผลถึงวันที่ 7 ก.พ. วันเดียวกับที่ประกาศภาวะฉุกเฉินใน 7 จังหวัดสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มว่า คำสั่งแบนจะขยายเวลาออกไป หากตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันไม่ลดลงในจังหวัดเหล่านั้น
ญี่ปุ่นรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ตรวจพบในสหราชอาณาจักร ว่าเป็นชาวญี่ปุ่นที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศในเดือนธ.ค. เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นยังได้รายงานผู้ติดเชื้อ 4 รายจากโควิดสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเป็นการกลายพันธุ์เดียวกันกับอังกฤษและแอฟริกาใต้ โดยเป็นชาวญี่ปุ่นที่กลับมาจากบราซิล
ผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยงสูง เช่น อังกฤษ แอฟริกาใต้ ต้องกักตัวในสถานกักตัวที่จัดไว้ในช่วง 3 วันแรก และมีการตรวจหาเชื้อโควิดในวันที่ 3 ที่มาถึงญี่ปุ่น โดยผู้ไม่ติดเชื้อสามารถเดินทางกลับบ้านได้และกักตัวเองต่อไปจนครบ 14 วัน