มาเลเซียจ่อห้ามเดินทางข้ามรัฐ ข้ามเขต
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. อัดฮัม บาบา รมว.สาธารณสุขมาเลเซียระบุว่า จะมีการคุมเข้มห้ามเดินทางข้ามรัฐและข้ามเขตเพื่อควบคุมให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในมาเลเซียลดลง
มาตรการคุมเข้มนี้มีขึ้นหลังจากตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่พุ่งสูงถึง 16 รายในวันที่ 8 ม.ค. และยังมีตัวเลขผู้ป่วยสูงสุดทั้งในห้องไอซียู และผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเพื่อให้มีชีวิตรอด
ดร.อัดฮัมระบุว่า นอกจากการคุมเข้มการเดินทาง กระทรวงยังแนะนำให้สภาความมั่นคงแห่งชาติมีมาตรฐานการดำเนินการเรื่องโควิด-19 ที่เข้มงวดขึ้น
“ ผู้ติดเชื้อในประเทศและแรงงานข้ามชาติที่ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยสาเหตุเกิดจากการเดินทางข้ามรัฐ หรือการอยู่รวมกลุ่มกัน หรืองานอีเวนต์ต่างๆ ”
เขาเสริมว่า กระทรวงได้แนะนำให้รัฐบาลจำกัดการเดินทางข้ามรัฐ หรือข้ามเขตเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส
คาดการณ์ว่านายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซินจะประกาศมาตรการคุมเข้มนี้ในวันที่ 11 ม.ค.
ในเดือนมี.ค.ปีที่แล้ว รัฐบาลประกาศมาตรการห้ามเดินทางภายใต้กฎหมายป้องกันและควบคุมโรคติดต่อปี 2531 รวมถึงกฎหมายตำรวจปี 2510 ซึ่งครอบคลุมกิจกรรมทั้งหมด
โดยคำสั่งนี้ได้มีการขยายจนครอบคลุมการห้ามรวมตัวกันทางศาสนา กีฬา กิจกรรมทางสังคมและวัฒนธรรม
มีการปิดศาสนสถานและสถานประกอบธุรกิจ ยกเว้นคือซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาด ร้านซักผ้าและร้านสะดวกซื้อ ซึ่งขายสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อยอดผู้ติดเชื้อลดลง รัฐบาลค่อยๆผ่อนคลายมาตรการลงและเปิดอุตสาหกรรมส่วนใหญ่และอนุญาตให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้เหมือนเดิม
ภายใต้คำสั่งห้ามเดินทางหลายประเภท สถานการณณ์การแพร่ระบาดดีขึ้น แต่การระบาดระลอก 3 ในเดือนต.ค.ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นกว่า 3,000 รายในวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยการระบาดระลอก 3 ส่วนใหญ่เป็นแรงงานข้ามชาติในภาคการผลิต
เมื่อวันที่ 8 ม.ค. มาเลเซียรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,643 ราย
โดยกระทรวงระบุในวันเดียวกันว่า มีผู้ป่วยโควิด-19 สูงถึง 170 รายในห้องไอซียู สูงที่สุดนับตั้งแต่รัฐบาลเริ่มรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วยอาการหนักถึง 82 รายที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
กระทรวงออกโรงเตือนว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 อาจพุ่งสูงถึง 8,000 รายต่อวันภายในช่วงกลางเดือนมี.ค. หากอัตราการติดเชื้อของประเทศเพิ่มขึ้นจากระดับที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน