สหรัฐฯ ติดเชื้อโควิด-19 ทะลุ 20 ล้านคน
วอชิงตัน : เมื่อวันที่ 1 ม.ค. สหรัฐฯฉลองวันขึ้นปีใหม่ด้วยตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมจากโควิด – 19 ที่พุ่งสูงทะลุ 20 ล้านราย หลังจากการฉลองเทศกาลปีใหม่ 2564 ทั่วโลกเงียบเหงาลงจากสถานการณ์การระบาด
สหรัฐฯ ประสบปัญหาในการควบคุมไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วไปทั่วประเทศ และทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 346,000 ราย จนถึงตอนนี้ยังเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุดในโลก
ความหวังของทั่วโลกที่หวังว่าวัคซีนต้านโควิด-19 จะช่วยยุติการระบาดได้ในปี 2564 ถูกเขย่าด้วยโครงการฉีดวัคซีนในสหรัฐฯที่ล่าช้า จากปัญหาการขนส่งและผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล
ประชาชนในสหรัฐฯเกือบ 2.8 ล้านคนได้รับวัคซีนโดสแรกแล้ว แต่ยังคงต่ำกว่าเป้าหมายเดิมของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ให้สัญญาว่าจะฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนได้ถึง 20 ล้านคนภายในปี 2563 ที่ผ่านมา
ในปีนี้ การเร่งฉีดวัคซีนจึงเป็นความสำคัญลำดับแรก เนื่องจากโควิด-19 ได้คร่าชีวิตคนทั่วโลกไปแล้วอย่างน้อย 1.8 ล้านคนนับตั้งแต่มีการระบาดครั้งแรกในจีนเมื่อเดือนธ.ค. 2562
บริษัทไบโอเอ็นเทคจากเยอรมนี หุ้นส่วนของบริษัทไฟเซอร์ในการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 ระบุเมื่อวันที่ 1 ม.ค.ว่า กำลังเร่งผลิตวัคซีนเพื่อเติมเต็มในส่วนของวัคซีนอื่นๆที่ยังไม่อนุมัติในยุโรป
หลายประเทศทั้งสหราชอาณาจักร แคนาดา และสหรัฐฯอนุมัติรับรองวัคซีนของไฟเซอร์ – ไบโอเอ็นเทคก่อน และตามมาด้วยการอนุมัติวัคซีนของโมเดอร์นา และม.ออกซ์ฟอร์ด – แอสตราเซเนกา
“สถานการณ์ปัจจุบันไม่ได้สวยงาม มันเหมือนเป็นหลุมอยู่ เพราะยังไม่มีวัคซีนของบริษัทอื่น และเราต้องเติมเต็มช่องว่างนี้ ” อูกูร์ ซาฮิน ผู้ร่วมก่อตั้งบ.ไบโอเอ็นเทคกล่าวให้สัมภาษณ์สื่อ
ประเทศอื่นๆก็ถูกวิจารณ์ว่ามีความล่าช้าในการฉีดวัคซีนเช่นกัน โดยในเยอรมนี บรรดาแพทย์อาวุโสบ่นว่าเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลยังคงต้องรอวัคซีนแม้ว่าจะอยู่ในกลุ่มแรกๆที่จะได้ฉีดวัคซีนก่อนก็ตาม
ฝรั่งเศสเองก็มีการบ่นแบบเดียวกัน ทำให้รัฐบาลต้องประกาศว่า บุคลากรทางการแพทย์ในวัย 50 ปีขึ้นไปจะได้รับวัคซีนตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการเดิม
เมื่อวันที่ 1 ม.ค. รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศว่า จะขยายเวลาเคอร์ฟิวทั่วประเทศใน 15 พื้นที่ซึ่งอัตราการติดเชื้อสูง โดยการห้ามออกนอกเคหสถานในยามวิกาลจะเริ่มตั้งแต่ 18.00 น แทนที่จะเป็น 20.00 น. รวมทั้งเมืองชายหาดอย่างนีซด้วย
สหราชอาณาจักรระบุเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.ว่า ได้ฉีดวัคซีนให้ประชาชนไปแล้วเกือบ 950,000 คน โดยยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นทำให้ต้องเปิดโรงพยาบาลสนามอีก
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า นี่ยีงไม่ถึงจุดที่เลวร้ายที่สุดทั่วโลก โดยทำนายว่าจะมีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์หน้าหลังมีการรวมตัวกันของประชาชนในช่วงเทศกาลวันหยุด
ในวันที่ 31 ธ.ค.องค์การอนามัยโลกได้อนุมัติฉุกเฉินให้วัคซีนของไฟเซอร์ – ไบโอเอ็นเทค เพื่อเป็นการปูทางให้หลายประเทศทั่วโลกอนุมัติการนำเข้าและการกระจายวัคซีนได้เร็วขึ้น
